ตามที่ได้กล่าวมาแล้วว่า พระองค์อัลลอฮ์ได้ทรงบัญญัติให้ทำการญิฮาด กับผู้ปฏิเสธอิสลามที่เป็นศัตรู และให้ญิฮาดกับบรรดาผู้กลับกลอกในด้านการศรัทธา ที่พวกเขาดูถูก,เย้ยหยัน, ดูแคลนท่านนบีมูฮัมหมัด ศอ็ลลอ็ลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม (ข้อบัญญัติในซูเราะห์อัตเตาบะห์อายะห์ที่ 73 ) ซึ่งท่านอิบนุมัสอู๊ด ได้อธิบายว่า ให้สู้กับพวกเขาทุกวิถีทาง ไม่ว่าจะด้วยมือ ด้วยลิ้น ด้วยหัวใจ หรือแสดงความรังเกียจด้วยสีหน้าก็ตาม และท่านอิบนุอับบาส อธิบายว่า ให้ญิฮาดกับกับกาเฟรที่เป็นศัตรูด้วยอาวุธ และญิฮาดกับมุนาฟีกีนด้วยคำพูด และอย่าได้เอื้ออาธรใดๆต่อพวกเขา (ตัฟซีรอิบนิกะษีร เล่ม 4 หน้าที่ 118 199)
และด้วยข้อบัญญัติเรื่อง ญิฮาดนี้มิได้ถูกยกเลิก ฉะนั้นจึงเป็นหน้าของมุสลิมที่จะปฏิบัติเท่ามีความสามารถจะกระทำได้ แต่ในอดีตเมื่อเรื่องญิฮาดถูกประทานลงมา จุดยืนผู้คนในขณะนั้นแตกต่างกันออกไปคือ
จุดยืนของผู้ศรัทธาในเรื่องญิฮาด
เมื่อคำสั่งเรื่องฮิญาดถูกประทานลงมา บรรดาศอฮาบะห์ต่างดีใจ และขนขวายที่จะปฏิบัติ โดยทุกคนต้องการจะมีส่วนร่วมในการปกป้องมุสลิมและอิสลาม เนื่องจากพวกเขาตระหนักถึงคำสั่งใช้และภาคผลของการญิฮาด ดังที่พระองค์อัลลอฮ์ ได้ทรงกล่าวว่า
บทความที่นำเสนอนี้ไม่ใช่เพื่อต้องการฮุก่มว่า พี่น้องมุสลิมคนใดเป็นมุนาฟิก แต่เพื่อเตือนสติว่า ในขณะศัตรูเขาเย้ยหยันถางถาง ดูแคลน ท่านนบีมูฮัมหมัด ศอ็ลลอ็ลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม นั้น หากท่านไม่มีโอกาสในการร่วมต่อสู้ ก็อย่าได้แสดงพฤติกรรมของมุนาฟีกีน ด้วยการปลุกปั่น คัดค้านผู้ที่เขาออกมาปกป้องเกียรติของท่านรอซูล
สงวนลิขสิทธิ์โดย © อ.ฟารีด เฟ็นดี้ All Right Reserved.