หลังจากที่เราได้วิพากษ์ฮะดีษ ลัจญ์ลาจญ์ ซึ่งเป็นฮะดีษต้นพระเอกของผู้นิยมอ่านอัลกุรอานในกุโบร์ และเราได้ชี้สถานะให้ท่านได้ทราบแล้วว่าเป็นฮะดีษฏออีฟ หลังจากนั้นเราพยายามสืบค้นฮะดีษที่ศอเฮียะห์ เพื่อนำมายืนยันในเรื่องการอ่านอัลกุรอานในกุโบร์ แต่ปรากฏว่า ไม่พบฮะดีษศอเฮียห์ในเรื่องนี้สักบทเดียว นอกจากฮะดีษที่เป็นคำรายงานจากศอฮาบะห์ชื่อ อับดุลลอฮ์ อิบนิอุมัร ซึ่งเราจะได้นำมาแสดงดังต่อไปนี้
حَدَّثَنَا يَزِيْدُ أخْبَرَنَا هَمَّامُ بْنُ يَحْيَي عَنْ قَتَادَةَ عَنْ أَبِي الصِّدِيْقِ هُوَ النَاجِيُّ عَنِ إبْنِ عُمَرَ عَنِ النَّبِيِّ صَلّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ قَالَ : إذَا وَضَعْتُمْ مَوْتَاكُمْ فِى القَبْرِ فَقُوْلُوا بِسْمِ اللهِ وَعَلى مِلَّةِ رَسُوْلِ اللهِ صَلَّى اللهُ عَليْهِ وَسَلَّمَ
ยะซีด เล่าให้เราฟังว่า ฮัมมาม อิบนุยะห์ยา บอกกับเราโดยฟังมาจาก ก่อตาดะห์ จากอบี อัศศิดดีก คือ อัลนาญีย์ จากอิบนิอุมัร จากท่านนบี ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า “เมื่อพวกเจ้าได้วางศพของพวกเจ้าลงในหลุมศพ ก็จงกล่าวว่า บิสมิลลาฮิ ว่าอะลามิ้ลละติร่อซูลิ้ลลาฮิ ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม” คัดลอกตัวบทจากมุสนัดอิหม่ามอะห์หมัด ฮะดีษเลขที่ 4581 และ 4748
حَدَّثَنَا وَكِيْعٌ حَدَّثَنَا هَمَّامٌ عَنْ قَتَادَةَ عَنْ أَبِي الصِدِّيْقِ النَاجِي عَنِ إبْنِ عُمَرَ قالَ : قالَ رَسُوْلُ اللهِ صَلَّى اللهُ عَليْهِ وَسَلَّمَ : إذَا وَضَعْتُمْ مَوْتَاكُمْ فِي قُبُوْرِهِمْ فَقُوْلُوا بِسْمِ اللهِ وَعَلى سُنَّةِ رَسُوْلِ اللهِ صَلَّى اللهُ عَليْهِ وَسَلَّمَ
วะเกียะอ์ เล่าให้เราฟังว่า ฮัมมาม เล่าให้เราฟังจาก ก่อตาดะห์ จากอบี อัศศิดดีก อัลนาญีย์ จากอิบนิอุมัร กล่าวว่า ท่านรอซูลุ้ลลอฮ์ ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า “เมื่อพวกเจ้าวางศพของพวกเจ้าลงในหลุมศพของพวกเขาก็จงกล่าวว่า บิสมิ้ลลาฮิ วะอะลาซุนนะติร่อซูลิ้ลลาฮิ ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม” คัดลอกตัวบทจากมุสนัดอิหม่ามอะห์หมัด ฮะดีษเลขที่ 4982,5115 และ 5837
ฮะดีษทั้งสองบทข้างต้นนี้มีสำนวนคำรายงานที่แตกต่างกันบ้างเล็กน้อย โดยเฉพาะประโยคที่ท่านนบีใช้ให้กล่าวขณะวางศพลงในหลุม คือในบทแรกใช้คำรายงานว่า บิสมิ้ลลาฮิ วะอะลามิ้ลละติร่อซูลิ้ลลาฮ์ ส่วนในบทที่สองใช้คำรายงานว่า บิสมิ้ลลาฮิวะอะลาซุนนะติร่อซูลิ้ลลาฮ์ แต่ทั้งสองสำนวนก็มาจากสายของฮัมมาม อิบนุยะห์ยา ทั้งคู่ เพียงแต่ผู้รายงานในระดับล่างของฮะดีษบทแรกคือ ยะซีด และในบทที่สองคือ วะเกียะอ์
ขณะที่ฮะดีษเกี่ยวกับเรื่องนี้ยังมีสายรายงานอื่นๆ อีกที่ยืนยันว่า ท่านนบีสนับสนุนให้กล่าวประโยคข้างต้นในขณะวางศพลงในหลุม เช่นสายรายงานของ นาเฟียะอ์ จากอิบนิอุมัร จากท่านนบี ระบุอยู่ในตำราบันทึกฮะดีษ เช่น สุนันอิบนิมาญะห์ เล่มที่ 1 หน้าที่ 494, มุสนัด อิบนุอบีชัยบะห์ เล่มที่ 3 หน้าที่ 19, และอัลมัวอ์ญัมอัลเอาศ๊อต ของท่านอิหม่าม อัตฏ๊อบรอนีย์ เล่มที่ 7 หน้าที่ 228 และจากสายรายงานของ วาซิละห์ ซึ่งบันทึกอยู่ใน อัลมัวอ์ญัมอัลกะบีร ของท่านอิหม่าม อัตฏ๊อบรอนีย์ เล่มที่ 22 หน้าที่ 62
แม้ว่าคำรายงานจากท่านอิบนิอุมัร ที่อ้างถึงคำพูดของท่านนบีนี้ (มัรฟัวอ์) จะมีการรายงานจากหลายสาย แต่ท่านอิหม่ามอัลบัยฮะกีย์ ได้กล่าวว่า คำรายงานที่สืบถึงท่านนบี (มัรฟัวอ์) มีเพียงสายรายงานของ ฮัมมาม เท่านั้นที่มีความถูกต้อง
อย่างไรก็ตาม สายรายงานทั้งหมดต่างก็สนับสนุนซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะจากสายรายงานของฮัมมาม ทั้งสองบทที่นำมาแสดงข้างต้น จัดอยู่ในประเภท ศอเฮียะห์ เนื่องจากไม่มีนักวิชาการฮะดีษท่านใดตำหนิคำรายงานและผู้รายงานในสายนี้เลย
นอกจากนั้น ฮะดีษในเรื่องเดียวกันนี้ ยังมีคำรายงานจากสายอื่นๆ อีกแต่สายรายงานสิ้นสุดแค่ศอฮาบะห์ชื่อ อับดุลลอฮ์ อิบนิอุมัร เท่านั้น (เมากูฟ) เช่นสายรายงานของ ชัวอ์บะห์ ในบันทึกของ อิบนุอบีชัยบะห์ เล่มที่ 3 หน้าที่ 18, ในสุนันอัลกุบรอ ของท่านอิหม่ามนะซาอีย์ เล่มที่ 6 หน้าที่ 268, และท่านอิหม่ามอัตฏ๊อบรอนีย์ ใน อัตดุอาอ์ หน้าที่ 363, และท่านอิหม่ามอัลบัยฮะกีย์ ในสุนันอัลกุบรอ เล่มที่ 4 หน้าที่ 55
ส่วนอีกสายรายงานหนึ่งคือ สายของฮิชาม ที่คำรายงานสิ้นสุดแค่ศอฮาบะห (เมากูฟ) ชื่อ อับดุลลอฮ์ อิบนิอุมัร เช่นเดียวกัน โดยท่านอิหม่าม อัตฏ๊อบรอนีย์ระบุไว้ใน “อัตดุอาอ์” หน้าที่ 363 และท่านอิหม่ามอัลบัยฮะกีย์ ในสุนันอัลกุบรอ เล่มที่ 4 หน้าที่ 55
อย่างไรก็ตาม แม้คำรายงานของฮะดีษในบทนี้ จะมีความแตกต่างกันในเรื่องของแหล่งที่มา โดยบางสายระบุว่าเป็นคำของท่านนบี (มัรฟัวอ์) และบางสายระบุว่าเป็นคำของท่าน อับดุลลอฮ์ อิบนิอุมัร (เมากูฟ) แต่ก็มีสายรายงานที่ ศอเฮียะห์ สืบถึงท่านนบี ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ดั่งเช่นฮะดีษทั้งสองบทที่นำมาแสดงไว้ข้างต้น
แต่สิ่งที่น่าสังเกตก็คือ ตัวบทฮะดีษทุกสายรายงาน ต่างยืนยันว่า ขณะนำศพลงหลุมให้กล่าวว่า บิสมิ้ลลาฮิ วะอะลามิ้ลละติร่อซูลิ้ลลาฮ์ หรือ บิสมิ้ลลาฮิวะอะลาซุนนะติร่อซูลิ้ลลาฮ์ โดยไม่มีข้อความใดที่ใช้หรือสนับสนุนให้อ่านอัลกุรอานที่หลุมศพของผู้ตายเลย นอกจากฮะดีษลัจญ์ลาจญ์ ซึ่งเป็นฮะดีษฏออีฟ ที่มีสายรายงานและคำรายงานแหวกแนวดั่งที่เราได้วิพากษ์ไว้ก่อนหน้านี้แล้ว
สงวนลิขสิทธิ์โดย © อ.ฟารีด เฟ็นดี้ All Right Reserved.