ขณะที่ผมกำลังสนทนากับผู้หลักผู้ใหญ่ จู่ๆ ก็มีอวุโสท่านหนึ่งเข้ามาร่วมวงด้วย
หลังจากให้สลามแล้วเขาก็เอ่ยโพล่งขึ้นมาว่า
อาจารย์...อย่างนี้ไม่บิดอะห์หรือ
ผมกับผู้ร่วมสนทนามองหน้ากันด้วยความมึนงง ที่อยู่ๆก็เจอคำถามที่ไม่มีต้นสายปลายเหตุ แต่เขาคงนึกได้เลยเริ่มบอกที่มาที่ไปของข้อสงสัยว่า
ตอนที่ไปประท้วงหน้าสถานทูตเดนมาร์ค ลูกน้องมันก็ไปด้วย แต่มันฮุก่มว่าเป็นบิดอะห์ แล้วเมื่อวานลูกทีมมันก็ไปประท้วง (ทักษิณ) ที่สนามหลวง ไม่เห็นมันออกมาฮุก่มว่าบิดอะห์เลย
ขณะที่หูของผมยังอื้ออึงกับคำถามที่ตรงไปตรงมาเช่นนี้ พลันก็ได้ยินเสียงผู้ใหญ่ท่านหนึ่งตอบสวนขึ้นว่า
ประท้วงทักษิณนะ ไม่เป็นบิดอะห์หรอก เพราะเป็นซุนนะห์ของมหาจำลอง แล้วก็ตามด้วยเสียงฮาครืน
จากนั้นวงสนทนาก็ได้เริ่มวิพากษ์วิจารณ์ถึงเหตุการณ์บ้านเมืองที่กำลังร้อนระอุในขณะนี้ สมองผมยังคิดย้อนไปถึงเหตุการณ์เมื่อวันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ 2459 ขณะที่เราและพี่น้องมุสลิมส่วนหนึ่งในประเทศไทย พร้อมกับเหล่าผู้ศรัทธาทั่วโลก ได้ออกมาประท้วง ประณามการกระทำของเดนมาร์คกับพวก ที่วาดภาพการ์ตูนดูแคลนท่านนบีมูฮัมหมัด ศอ็ลลอ็ลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม อยู่นั้น มีพี่น้องนักวิชาการบางท่านได้ออกมาต่อต้าน คัดค้าน ซึ่งทำให้ผมแปลกใจมากว่า แทนที่เขาจะต่อต้านหรือคัดค้านผู้ดูแคลนนบี แต่กลับต่อต้านคัดค้านผู้ออกมาปกป้องรักษาเกียรติของท่านนบี แทนที่ปากของเขาจะด่าประณามศัตรู แต่เขากลับด่าประณามผู้ที่ออกมาปกป้องเกียรติของท่านนบี อะไรกำลังเกิดขึ้นกับสังคมของเรา
และเมื่อชาวบ้านเขาเอ่ยปากถามว่า ตอนที่ไปประท้วงหน้าสถานทูตเดนมาร์ค ลูกน้องมันก็ไปด้วย แต่มันฮุก่มว่าเป็นบิดอะห์ แล้วเมื่อวานลูกทีมมันก็ไปประท้วง (ทักษิณ) ที่สนามหลวง ไม่เห็นมันออกมาฮุก่มว่าบิดอะห์เลย แล้วผมจะให้คำตอบกับชาวบ้านอย่างไรดีละนี่
แม้ว่าผมจะไม่ใช่คนที่ฟัตวาเช่นนั้น และคำถามที่เขาถามนั้นจะไม่ต้องการคำตอบก็ตาม แต่ในฐานะที่เป็นครูบาอาจารย์ก็ทำให้สะอึกได้เหมือนกัน เพราะสังคมของเราที่กำลังวุ่นๆ อยู่นี้มิใช่เพราะท่านครูหรือที่เป็นด้ามเป็นหอกให้บรรดาลูกศิษย์ห้ำหั่นกัน โดยเอาศาสนาเป็นข้ออ้าง
ผมไม่ว่าหรอกครับ ถ้าใครจะไม่เห็นด้วยในการประท้วงกรณี อัฟกานิสถาน หรือกรณีอิรัค แต่นี่คือเกียรติของท่านนบีที่กำลังถูกหยาม มันเทียบกันไม่ได้ แม้ว่าก่อนหน้านี้นักวิชาการบางท่านจะฟัตวาไม่เห็นด้วยกับการประท้วงก็ตาม แต่นั่นมันเป็นคนละเหตุ คนละกรณี แต่เหตุการณ์ที่นบีถูกหยามเช่นนี้นักวิชาการโลกอิสลามต่างเห็นตรงกันว่า โทษของผู้กระทำการเช่นนั้นคือประหาร ไม่ใช่แค่ประท้วง และถ้าโลกมุสลิมชะระโทษผู้ที่ดูแคลนท่านนบีได้ มีหรือที่เขาจะนิ่งเฉย
เรื่องอย่างนี้ ถ้าไอ้โล๊ะ ไอ้มัดชายคลองมันเข้าใจ มีหรือที่คนเรียนผ่านเมืองนอกเมืองนาจะไม่เข้าใจ
การปกป้องเกีรยติของท่านนบีเกี่ยวข้องกับอะกีดะห์หรือไม่
ถ้าเราได้ทบทวนรุก่นอีหม่าน 6 ประการที่เคยท่องจำกันมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย จะพบว่า หนึ่งในนั้นคือการศรัทธาต่อบรรดารอซูล ที่ไม่ใช่แค่บทท่องจำ แต่เรายืนยันด้วยรุ่ก่นอิสลามข้อแรก คือการปฏิญาณตนด้วยสองประโยคว่า อัชฮ่าดุอันลาอิลาฮ่าอิ้ลลัลลอฮ์ และ อัชฮ่าดุอันน่ามูฮัมม่าดัรร่อซูลุลลอฮ์
คำกล่าวปฏิญาณในประโยคที่สองนี้มีผลมาจากหัวใจที่ศรัทธา ปากจึงได้กล่าวยืนยันออกมาสุดความสามารถว่า ยอมรับในการเป็นร่อซูลของมูฮัมหมัด ศอ็ลลอ็ลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม และคำปฏิญาณนี้มิใช่เป็นการยอมรับเฉพาะตัวของท่านเพียงอย่างเดียว หากแต่หมายถึงการยอมรับในตำแหน่งรอซูลของท่านด้วย อีกทั้งยอมรับในคำสอนของท่านด้วยเช่นกัน วันนี้เราจะบอกว่าศรัทธาแล้วได้อย่างไรในเมื่อเกียรติของท่านนบีถูกหยามแล้วเรานิ่งเฉย
ท่านนบีมูฮัมหมัด ศอ็ลลอ็ลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
แม้ว่าเรื่องของบ้านเมืองจะเป็นเรื่องสำคัญที่เรามีส่วนเกี่ยวข้องด้วยในฐานะเป็นพลเมืองของบ้านนี้เมืองนี้ แต่ก็ยังไม่สำคัญเท่ากับการจงรักภักดีต่อท่านรอซูลมิใช่หรือ ไม่เช่นนั้น ท่านจะตอบคำถามของชาวบ้านอย่างไรว่า
ประท้วงศัตรูที่หยามเกียรตินบีเป็นบิดอะห์ แล้วประท้วงทักษิณเป็นซุนนะห์ของใคร พวกท่านจึงเข้าร่วมโดยไม่มีท่านครูคนใดออกมาท้วงติง หรือเป็นซุนนะห์มหาจำลองอย่างที่เขาว่า
สงวนลิขสิทธิ์โดย © อ.ฟารีด เฟ็นดี้ All Right Reserved.