ค้นหา  ·  หัวข้อเรื่อง  ·  เข้าระบบ  ·  เผยแพร่เรื่อง
                      สมัครสมาชิก  

หนังสือใหม่

ผลงานล่าสุด
ของ อ.ฟารีด เฟ็นดี้


อีซีกุโบร์



พิธีกรรมยอดฮิตติดอันดับของเมืองไทย อิซีกุโบร์ พิธีกรรมเซ่นสังเวยดวงวิญญาณ วิเคราะห์เจาะลึกถึงที่มาพร้อมวิเคราะห์หลักฐาน คนกินข้าว ผีกินบุญ จริงหรือ ?

อุศ็อลลี



เหนียตและการตะลัฟฟุซแตกต่างกันอย่างไร แสดงที่มาของการกล่าวอุศ็อลลี แจงเหตุที่มาและบทวิเคราะห์ทางวิชาการ

ซัยยิดินา



การเพิ่มซัยยิดินาในศอลาวาต เป็นฮะดีษศอเฮียะห์จริงหรือ แจงเหตุที่มาและบทวิเคราะห์ทางวิชาการ

การยกมือตั๊กบีร
ระหว่างสองสุญูด




การยกมือตั๊กบีรระหว่างสองสุญูด เป็นซุนนะห์จริงหรือ วิเคราะห์หลักฐานที่กล่าวกันว่าท่านนบีกระทำเป็นบางครั้งจริงหรือไม่

วะบิฮัมดิฮี



หลักฐานการอ่านวะบิฮัมดิฮีในรุกัวอ์และสุญูดถูกต้องหรือ เชคอัลบานีว่าเป็นฮะดีษ ศอเฮียะห์จริงหรือไม่ พิสูจน์หลักฐานตามศาสตร์ของฮะดีษ เพื่อคุณจะได้มีคำตอบแก่ตัวเอ

วาญิบต้องศอลาวาต
ในตะชะฮุดแรกหรือ




ชี้แจงมุมมองของเชคอัลบานี ที่ตกทอดสู่เมืองไทย ถ้าไม่อ่านศอลาวาตในตะชะฮ์ฮุดแรกละหมาดใช้ไม่ได้ หากลืมก็ต้องสุญูดซะฮ์วี จริงหรือ อ่านวิเคราะห์หลักฐานทางวิชาการ เพื่อคุณจะได้มีคำตอบแก่ตัวเอง

รู้ทันชีอะฮ์



เผยกลลวงของชีอะห์ในการดึงมุสลิมออกจากอิสลาม
ตอบโต้ข้อกล่าวหา,ใส่ร้าย,ประณามศอฮาบะห์

ติดต่อและสั่งซื้อได้ที่
คุณยะอ์กู๊บ น้อยนงค์เยาว์
084 0004619


รวมวิดีโอ

>>..ดูทั้งหมด..<<


เมนูหลัก

 บริการหลัก
หน้าแรก
ถามตอบ
ติดต่อสอบถาม
แนะนำบอกต่อ
ค้นหา
แสดงสถิติ
ผลสำรวจ
ยอดฮิตติดอันดับ
 บริการสมาชิก
รายนามสมาชิก
 บริการข่าวสาร
 บริการอื่นๆ
ดาวน์โหลด
วิดีโอบรรยาย
ห้องแสดงภาพ
ฮะดีษแปลไทย


บทความรายวิชา








วิเคราะห์ข้อขัดแย้ง

  ศอฮาบะห์กางเต้นท์อ่านอัลกุรอานบนกุโบร์หรือ
  อัลกอมะห์กับแม่
  อิสลามเปลี่ยนวันใหม่ตอนมักริบไม่ใช่เที่ยงคืน
  เฝ้ากุโบร์ไม่ฮะราม..หรือ
  วิพากษ์หลักฐานเรื่องทำกุรบานให้คนตาย
  ถือศีลอดสิบวันแรกเดือนซุ้ลฮิจญะห์เป็นฮะดีษศอเฮียะห์หรือไม่
  วันที่ 9 ซุ้ลฮิจญะห์ที่ไม่มีอะรอฟะห์
  มีหลักฐานห้ามไหม
  กล่าวเท็จต่อท่านนบีว่า ท่านอ่านอัลกุรอานในกุโบร
  วิพากษ์หลักฐานการอ่านอัลกุรอานที่กุโบร์ ตอนที่ 3 คำรายงานที่ถูกต้องจากอิบนิอุมัร

[ดูเรื่องทั้งหมด]

บทความทั่วไป

  ทำบุญประเทศ
  เมื่อโลกหยุดหมุน
  ผีแม่ซื้อ
  ประเพณีการแต่งงานของมุสลิมภาคใต้
  อาซูรอ 10 มุฮัรรอม กับตำนานกวนซุฆอ
  เมาตาคือใคร
  ...ทาส... ตอนที่ 2
  ...ทาส... ตอนที่ 1
  เผยอะกีดะห์กลุ่มดะอ์วะห์ ตอนที่ 2
  เผยอะกีดะห์กลุ่มดะอ์วะห์ ตอนที่ 1

[ดูเรื่องทั้งหมด]

เหมือนหรือต่าง

ภาพเปรียบเทียบระหว่างพิธีการทรมานตนเองของชาวชีอะฮ์ อิหม่าม 12 ในวันที่ 10 มุฮัรรอมของทุกปี กับม้าทรงของศาลเจ้าสามกอง ในงานประจำปี จ.ภูเก็ต


ชีอะฮ์อิหม่ามสิบสอง

ม้าทรงศาลเจ้าสามกอง

ชีอะฮ์อิหม่ามสิบสอง

ม้าทรงศาลเจ้าสามกอง

ชีอะฮ์อิหม่ามสิบสอง


เวบลิ้งค์

มรดกอิสลาม
อัซซุนนะห์
ซุนนะห์ไซเบอร์
ชมรมวะรอซะตุซซุนนะฮฺ แนวร่วมมุสลิมต่อต้านรอฟิเฏาะ - ร่วมต่อต้านวันนี้ หรือจะรอให้สายเกินไป



อัลกาฟี หรือ อัลกาเฟร





               อัลกาฟี เป็นหนึ่งในสี่ตำราขนานเอกของชีอะห์  ถูกประพันธ์ขึ้นโดย มูฮัมหมัด บิน ยะอ์กู๊บ บิน อิสฮาก อัลกุลัยนีย์ อัรรอซีย์ มีสร้อยว่า อบูญะอ์ฟัร และมีฉายาว่า อัลอะอ์วัร

               มูฮัมหมัด บิน ยะอ์กู๊บ เกิดที่ชุมชนกุลัยน์ ห่างจากตำบล รอยย์ ไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ประมาณ 38 กิโลเมตร  ดังนั้นจึงถือว่าเขาเป็นชาวอีหร่านโดยกำเนิด และด้วยการที่เขาเกิดที่ชุมชนกุลัยน์นี่เอง ผู้คนจึงเรียกขานเขาว่า อัลกุลัยนีย์  และต่อมาเขาได้เดินทางไปพำนักอยู่ที่กรุงแบกแดด จึงได้รับการเรียกขานอีกชื่อหนึ่งว่า อัลบัฆดาดีย์

               อัลกุลัยนีย์ ใช้เวลาในการเก็บข้อมูลจากแห่ลงต่างๆ นานถึง 20 ปี จนกระทั่งรวบรวมเป็นฮะดีษบรรจุไว้ใน อัลกาฟี ทั้งหมด 16121 ฮะดีษ ซึ่งถือเป็นแหล่งข้อมูลสำคัญของชาวชีอะห์เลยทีเดียว บรรดาอุลามาอ์ชีอะห์ต่างเชื่อกันว่า อัลกุลัยนีย์ ได้นำตำราบันทึกฮะดีษของเขาเสนอต่อ อัลกออิม (หมายถึงอิหม่ามที่ 12 ผู้แฝงกาย) และท่านกล่าวว่า    كاف لشيعتنا  แปลว่า เพียงพอแล้วสำหรับชีอะห์ของเรา และเป็นที่มาของชื่อตำรานี้ว่า อัลกาฟี ซึ่งมีความหมายว่า เพียงพอ (ปฐมบท หนังสือ อัลอุศูล มินัลกาฟี ตีพิมพ์ที่กรุงเตหะราน โดยสำนักพิมพ์ ดารุ้ลกุตุ๊บ อัลอิสลามียะห์)

               อัลกุลัยนีย์ ถือเป็นบรมจารย์ของชาวชีอะห์อิหม่ามสิบสอง โดยเชื่อกันว่า เขามีความเชี่ยวชาญทั้งด้านฟิกฮ์และฮะดีษในเวลาเดียวกัน แต่ที่น่าแปลกก็คือ เขาไม่ได้มีเชื้อสายเกี่ยวพันใดๆกับ อะห์ลุ้ลบัยต์ เลยแม้แต่น้อย แม้กระทั่งสายรายงานที่เขาใช้อ้างอิงในตำรา อัลกาฟี ก็ไม่ปรากฏว่าผู้ใดเป็นอะห์ลุ้ลบัยต์ แม้แต่คนเดียว ซึ่งเราจะได้นำมาวิจารณ์ในหัวเรื่อง เปรียบเทียบสายรายงานของ บุคอรี และ อัลกุลัยนี อินชาอัลลอฮ์

               แต่สิ่งที่ทำให้เราแปลกใจอีกประการหนึ่งก็คือ กุลัยนีย์ เกิดในปลายสมัยของ อิหม่ามอัลอัสกะรีย์ อิหม่ามลำดับที่ 11 ของชีอะห์ และได้ย้ายถิ่นฐานมาพำนักอยู่ที่อิรัค ความจริงแล้วเขาน่าจะบันทึกเรื่องราวจากอิหม่ามอัลอัสกะรีย์ มากกว่า เพราะอยู่ในที่เดียวกันยุคเดียวกัน แต่ปรากฏว่าในตำราของเขา กลับบันทึกเรื่องราวย้อนไปในยุคอิหม่ามลำดับที่ 6 คือ อ้างคำรายงานถึง อบี อับดิลลาฮ์ ญะอ์ฟัร อัศศอดิก ซึ่งพำนักอยู่ที่นครมะดีนะห์ และอยู่ห่างจากเขาตั้งเกือบ 200 ปี   อัลกุลัยนีย์ เสียชีวิตในปีที่ 328 บ้างก็ว่า 329 ฮิจเราะห์ศักราช



               ก่อนจะได้เผยให้เห็นถึงสิ่งที่มีอยู่ในตำราขนานเอกของชีอะห์ เราไปศึกษาข้อความจากอัลกุรอานกันก่อนสักเล็กน้อยดังนี้

                พระองค์อัลลอฮ์ ทรงกล่าวว่า
 
قُلْ إنَّ الأمْرَ كُلَّهُ ِللهِ
 

“จงกล่าวเถิด (มูฮัมหมัด) แท้จริงกิจการทุกอย่างเป็นกรรมสิทธิ์แด่อัลลอฮ์” ซูเราะห์ อาลาอิมรอน อายะห์ที่ 154

 
وَعِنْدَهُ مَفَاتِحُ الغَيْبِ لاَ يَعْلَمُهَا إلاَّ هُوَ 

“และ ณ.ที่พระองค์นั้นมีกุญแจแห่งสิ่งที่พ้นญาณวิสัย ไม่มีผู้ล่วงรู้มัน นอกจากพระองค์เท่านั้น” ซูเราะห์ อัลอันอาม อายะห์ที่ 59

 
قُلْ لاَ يَعْلَمُ مَنْ فِي السَّمَاوَاتِ وَالأرْضَ الغَيْبَ إلاَّ اللهُ
 

“จงกล่าวเถิด (มูฮัมหมัด) ไม่มีผู้ใดในบรรดาชั้นฟ้าและแผ่นดินจะล่วงรู้ในสิ่งที่พ้นญาณวิสัย นอกจากอัลลอฮ์” ซูเราะห์ อันนัมล์ อายะห์ 65

 
عَالِمُ الغَيْبِ فَلاَ يُظْهِرُ عَلَى غَيْبِهِ أَحَداً إلاَّ مَنِ ارْتَضَى مِن رَّسُوْلٍ
 
“พระองค์ทรงรู้ถึงสิ่งที่พ้นญาณวิสัย และจะไม่เผยสิ่งพ้นญาณวิสัยของพระองค์แก่ผู้ใด นอกจากผู้ที่พระองค์พอพระทัยจากรอซูล” ซูเราะห์ อัลญิน อายะห์ที่ 26 - 27
  
لاَ تَعْلَمُهُمْ نَحْنُ نَعْلَمُهُمْ 

“เจ้า (มูฮัมหมัด) ไม่รู้ (สิ่งที่อยู่ในใจ) พวกเขา แต่เรา (อัลลอฮ์) รู้ถึงพวกเขาดี”
ซูเราะห์ อัตเตาบะห์ อายะห์ที่ 101
  
قُلْ مَا كُنْتُ بِدْعاً مِنَ الرُّسُلِ وَمَا أدْرِي مَا يُفْعَلُ بِي وَلاَ بِكُمْ 

“จงกล่าวเถิด (มูฮัมหมัด) ฉันไม่ใช่ผู้แรกในบรรดารอซูล และฉันไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแก่ฉันและพวกท่าน” 
ซูเราะห์ อัลอะฮ์กอฟ อายะห์ที่ 9
 

                ความจริงแล้ว ยังมีอัลกุรอานอีกหลายอายะห์ ที่พูดเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ไว้ แต่เพียงพอแล้วที่เราจะนำบางอายะห์มาพิสูจน์อะกีดะห์ของเหล่าชีอะห์ เพื่อท่านจะได้ทราบว่า สวนทางกับอัลกุรอานอย่างไรบ้าง ที่นี้เราลองไปดูเรื่องราวในคำสอนของพวกเขาที่ถูกระบุอยู่ในหนังสืออัลกาฟีดังนี้

               บทที่ว่าด้วยเรื่อง :  บรรดาอิหม่ามรู้ถึงศาสตร์ทุกแขนงมากกว่าบรรดามะลาอิกะห์,บรรดานบีและบรรดารอซูล

  
عن أبي جعفر عليه السلام قال : إن الله عزوجل علمين : علم لا يعلمه إلا هو وعلم علمه ملائكته ورسله فما علمه ملائكته ورسله فنحن نعلمه
 

“จาก อบี ญะอ์ฟัร อลัยฮิสสลาม กล่าวว่า แท้จริงอัลลอฮ์ ผู้ทรงเกียรติและสูงส่ง มีความรู้สองประการ : ประการหนึ่ง ไม่มีผู้ใดรู้ได้นอกจากพระองค์เท่านั้น และอีกประการหนึ่งพระองค์ได้สอนบรรดามะลาอิกะห์และบรรดารอซูลของพระองค์ และสิ่งที่ไม่ได้สอนแก่บรรดามะลาอิกะห์และบรรดารอซูลของพระองค์นั้น พวกเราได้รู้ในเรื่องนั้น” อัลอุศูลุ้ล มินัลกาฟี เล่มที่ 1 หน้าที่ 256

                บทที่ว่าด้วยเรื่อง  :  อัลฆอยบ์ (สิ่งที่พ้นญาณวิสัย)

 
عن عمار الساباطي قال : سألت أباعبد الله عليه السلام عن الإمام ؟ بعلم الغيب ؟ فقال : لا ولكن إذا أراد أن يعلم الشيء أعلمه الله ذلك
 

“จาก อัมมาร อัสซาบาฏีย์ กล่าวว่า ฉันถาม อบี อับดิลลาฮ์ อลัยฮิสสลาม เกี่ยวกับอิหม่ามว่า เขารู้เรื่องอัลฆอยบ์หรือ ?  เขาตอบว่า ไม่ แต่เมื่อเขาต้องการจะรู้สิ่งใดอัลลอฮ์ก็จะให้เขารู้ในเรื่องดังกล่าว” อัลอุศูลุ้ล มินัลกาฟี เล่มที่ 1 หน้าที่ 257

                บทที่ว่าด้วยเรื่อง :  บรรดาอิหม่ามนั้นประสงค์จะรู้สิ่งใดก็ได้รู้

  
عن أبي عبد الله عليه السلام قال : إن الإمام إذا شاء أن يعلم علم
 
“จาก อบี อับดิลลาฮ์ อลัยฮิสสลาม กล่าวว่า :  แท้จริงอิหม่ามนั้นเมื่อเขาประสงค์จะรู้สิ่งใดก็ได้รู้”  อัลอุศูลุ้ล มินัลกาฟี เล่มที่ 1 หน้าที่ 258

                บทที่ว่าด้วยเรื่อง   แท้จริงบรรดาอิหม่าม รู้ถึงศาสตร์แห่งอดีตและอนาคต โดยไม่มีสิ่งใดแฝงเร้นต่อพวกเขาเลย

 عن الحارث بن المغيرة وعدة من أصحابنا منهم عبد الأعلى وأبوعبيدة وعبد الله ابن بشر الخثعمي سمعوا أبا عبد الله عليه السلام يقول : إني لأعلم ما في السماوات وما في الأرض وأعلم مافي الجنة وأعلم ما في النار وأعلم ماكان ومايكون 

“อัลฮาริษ บิน อัลมุฆีเราะห์ และสหายของเรากลุ่มหนึ่งประกอบด้วย อับดุลอะอ์ลา, อบูอุบัยดะห์ และอับดุลลอฮ์ บิน บิชร์ อัลค๊อซอามีย์ พวกเขาได้ยิน อบี อับดิลลาฮ์ กล่าวว่า : แท้จริงฉันรู้ดีถึงสิ่งที่มีอยู่ในบรรดาชั้นฟ้าและสิ่งที่มีอยู่ในผืนดิน และฉันรู้ดีถึงสิ่งที่มีอยู่ในสวรรค์ และฉันรู้ดีถึงสิ่งที่มีอยู่ในนรก และฉันรู้ดีถึงสิ่งที่อุบัติขึ้นแล้วและที่กำลังจะอุบัติขึ้นในภายภาคหน้า” 
อัลอุศูลุ้ล มินัลกาฟี เล่มที่ 1 หน้าที่ 261

                บทที่ว่าด้วยเรื่อง : อัลลอฮ์ไม่ได้สอนความรู้ใดๆให้แก่นบีของพระองค์ นอกจากจะใช้ให้เขาสอนความรู้นั้นแก่อาลีด้วย ดังนั้นเขาจึงเป็นหุ้นส่วนกับท่านนบีในเรื่องความรู้

 عن أبي عبد الله عليه السلام قال : إن جبريل عليه السلام أتى رسول الله صلى الله عليه وسلم برمانتين فأكل رسول الله صلى الله عليه وسلم إحداهما وكسر الأخرى بنصفين فأكل نصفا وأطعم عليا نصفا ثم قال رسول الله ضلى الله عليه وسلم : ياأخي هل تدري ما هاتان الرمانتين ؟ قال : لا قال : أما الأولى فالنبوة ليس لك فيها نصيب وأما الأخرى فالعلم أنت شريكي فيه فقلت : أصلحك الله كيف كان ؟  يكون شريكه فيه ؟ قال : لم يعلم الله محمدا صلى الله عليه وسلم علما إلا وأمره أن يعلمه عليا عليه السلام 

จาก อบี อับดิลลาฮ์ อลัยฮิสสลาม กล่าวว่า :  แท้จริงญิบรีล อลัยฮิสสลาม ได้มาหาท่านรอซูลุ้ลลอฮ์ ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม โดยนำลูกทับทิมมาสองผล ท่านรอซูลุ้ลลอฮ์ ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ได้กินไปหนึ่งผล และอีกผลหนึ่งได้แบ่งเป็นสองซีก โดยท่านรอซูลได้กินไปซีกหนึ่ง และให้อาลีกินอีกซีกหนึ่ง หลังจากนั้นท่านรอซูลุ้ลลอฮ์ ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า :  ไอ้น้องเอ๋ย เจ้ารู้ไหมว่า ลูกทับทิมสองผลนี้คืออะไร ? เขาตอบ ไม่รู้ ท่านกล่าวว่า ผลแรกนั้นคือตำแหน่งนบีซึ่งเจ้าไม่มีส่วนร่วมด้วย แต่ผลที่สองคือความรู้ที่เจ้ามีหุ้นส่วนกับฉันในเรื่องนี้  ฉัน (ผู้รายงาน) ถามว่า  เขาเป็นหุ้นส่วนกับนบีในความรู้หรือ เขา (อิหม่าม) ตอบว่า อัลลอฮ์ไม่สอนความรู้ใดๆ ให้แก่มูฮัมหมัดนอกจากจะใช้ให้เขาสอนแก่ อาลี อลัยฮิสสลาม ด้วย อัลอุศูลุ้ล มินัลกาฟี เล่มที่ 1 หน้าที่ 263

 

            ท่านเห็นหรือไม่ว่า เหล่าชีอะห์ได้ยกอิหม่ามของพวกเขาเสมออัลลอฮ์อย่างไร นอกจากนี้แล้วพวกเขายังสอนกันว่า บรรดาอิหม่ามของพวกเขาเป็นบุคคลที่เลิศเลอเหนือบรรดานบีและรอซูลอีกด้วย อย่างนี้ไม่ใช่อะกีดะห์ของบรรดาผู้ศรัทธาแน่นอน และไม่ใช่คำสอนของอะห์ลุ้ลบัยต์ด้วย เราลองดูอีกสักเรื่องหนึ่งดังนี้


               บทที่ว่าด้วยเรื่อง :  แท้จริงบรรดาอิหม่ามรู้ว่าพวกเขาจะตายเมื่อไหร่ และพวกเขาจะไม่ตายนอกจากการเลือกของพวกเขาเอง

 عن أبي جعفر عليه السلام قال : أنزل الله تعالى النصر على الحسين عليه السلام حتى كان ما بين السماء والأرض ثم خير النصر أو لقاء الله فاختار لقاء الله تعالى

“จาก อบี ญะอ์ฟัร อลัยฮิสสลาม กล่าวว่า อัลลอฮ์ ผู้ทรงสูงส่ง ได้ให้ความช่วยเหลือลงมาแก่ฮุเซน อลัยฮิสสลาม จนกระทั่งเต็มระหว่างชั้นฟ้าและแผ่นดิน หลังจากนั้นก็ให้เขาเลือกว่า จะเอาความช่วยเหลือหรือการกลับไปพบกับอัลลอฮ์ แต่เขาเลือกเอาการกลับไปพบกับอัลลอฮ์ผู้สูงส่ง” 
อัลอุศูลุ้ล มินัลกาฟี เล่มที่ 1 หน้าที่ 260



                 อิหม่ามมีสิทธิ์พิเศษที่จะเลือกตายหรือเลือกที่จะมีชีวิตอยู่ต่อก็ได้ ทำให้เราแปลกใจว่า ถ้าเป็นดังที่ตัวบทแสดงนี้ ก็เท่าเหตุการณ์สังหารท่านอิหม่ามฮุเซนนั้น เป็นสิ่งที่อิหม่ามเลือกเองมิใช่หรือ

                  พระองค์อัลลอฮ์ กล่าวว่า

 


قُلْ فأدْرَءُوا عَنْ أنْفُسِكُمُ المَوْتَ إنْ كُنْتُمْ صَادِقِيْنَ 



“จงกล่าวเถิด (มูฮัมหมัด) พวกเจ้าจงป้องกันตัวของพวกเจ้าให้พ้นความตายเถิด หากพวกเจ้าเป็นผู้สัจจริง” ซูเราะห์อาลาอิมรอน อายะห์ที่ 168

 

قُلْ لَوْ كُنْتُمْ فِي بُيُوْتِكُمْ لَبَرَزَ الَّذِيْنَ كُتِبَ عَلَيْهِمُ القَتْلُ إلَى مَضَاجِعِهِمْ 



“จงกล่าวเถิด (มูฮัมหมัด) แม้พวกท่านจะอยู่ในบ้านของพวกท่านก็ตาม แน่นอนว่าบรรดาผู้ซึ่งการสังหารได้ถูกกำหนดให้ประสบแก่พวกเขา มันก็จะเกิดขึ้นยังที่นอนของพวกเขา”  ซูเราะห์ อาลาอิมรอน อายะห์ที่ 154

 

وَمَا تَدْرِيْ نَفْسٌ مَاذَا تَكْسِبُ غَداً وَمَا تَدْرِيْ نَفْسٌ بِأَيِّ أرْضٍ تَمُوْتُ

 

“และไม่มีชีวิตใดจะรู้สิ่งที่จะแสวงหามาได้ในวันรุ่งขึ้น และไม่มีชีวิตใดรู้ว่าจะตาย ณ.แผ่นดินใด”  ซูเราะห์ลุกมาน อายะห์ที่ 34



                เราได้เห็นคำสอนที่สวนทางกับอัลกุรอานมากมายในตำราของพวกเขา และแม้ว่าจะมีบรรดาอุลามาอ์ชีอะห์ในปัจจุบันออกมาแก้ตัวกันพัลวันว่า ข้อความที่เรานำมาแสดงข้างต้นนี้เป็น ฮะดีษฏออีฟ ก็ยิ่งทำให้เราเกิดความกังขามากยิ่งขึ้นว่า เพราะเหตุใดชีอะห์จึงปล่อยให้ผู้อื่นที่ไม่ใช่อะห์ลุ้ลบัยต์ ลอบเข้ามาอ้างเท็จต่ออิหม่ามของพวกท่าน โดยไม่มีอุลามาอ์ชีอะห์ในอดีตท้วงติงเรื่องราวเหล่านี้  ในทางตรงกันข้ามพวกเขากลับกล่าวคำนิยมยกย่องผู้ประพันธ์และข้อความในตำราเล่มนี้มากมาย  แต่ก็ยังไม่เท่ากับคำของ อิลกออิม ที่ให้การรับรองไว้ว่า  كاف لشيعتنا   แปลว่า เพียงพอแล้วสำหรับชีอะห์ของเรา (อัลอุศูล มินัลกาฟี เล่มที่ 1 หน้าที่ 25)



                อัลกาฟี ชื่อตำราขนานเอกของชีอะห์ที่มีความว่า เพียงพอ นั้นมันเพียงพอแล้วจริงๆ ที่จะบอกให้ชาวโลกได้รู้ว่า ไม่ใช่คำสอนของอิสลาม

                  








สงวนลิขสิทธิ์โดย © อ.ฟารีด เฟ็นดี้ All Right Reserved.

ติดประกาศ: 2010-01-23 (2752 ครั้ง)

[ ย้อนกลับ ]