ค้นหา  ·  หัวข้อเรื่อง  ·  เข้าระบบ  ·  เผยแพร่เรื่อง
                      สมัครสมาชิก  

หนังสือใหม่

ผลงานล่าสุด
ของ อ.ฟารีด เฟ็นดี้


อีซีกุโบร์



พิธีกรรมยอดฮิตติดอันดับของเมืองไทย อิซีกุโบร์ พิธีกรรมเซ่นสังเวยดวงวิญญาณ วิเคราะห์เจาะลึกถึงที่มาพร้อมวิเคราะห์หลักฐาน คนกินข้าว ผีกินบุญ จริงหรือ ?

อุศ็อลลี



เหนียตและการตะลัฟฟุซแตกต่างกันอย่างไร แสดงที่มาของการกล่าวอุศ็อลลี แจงเหตุที่มาและบทวิเคราะห์ทางวิชาการ

ซัยยิดินา



การเพิ่มซัยยิดินาในศอลาวาต เป็นฮะดีษศอเฮียะห์จริงหรือ แจงเหตุที่มาและบทวิเคราะห์ทางวิชาการ

การยกมือตั๊กบีร
ระหว่างสองสุญูด




การยกมือตั๊กบีรระหว่างสองสุญูด เป็นซุนนะห์จริงหรือ วิเคราะห์หลักฐานที่กล่าวกันว่าท่านนบีกระทำเป็นบางครั้งจริงหรือไม่

วะบิฮัมดิฮี



หลักฐานการอ่านวะบิฮัมดิฮีในรุกัวอ์และสุญูดถูกต้องหรือ เชคอัลบานีว่าเป็นฮะดีษ ศอเฮียะห์จริงหรือไม่ พิสูจน์หลักฐานตามศาสตร์ของฮะดีษ เพื่อคุณจะได้มีคำตอบแก่ตัวเอ

วาญิบต้องศอลาวาต
ในตะชะฮุดแรกหรือ




ชี้แจงมุมมองของเชคอัลบานี ที่ตกทอดสู่เมืองไทย ถ้าไม่อ่านศอลาวาตในตะชะฮ์ฮุดแรกละหมาดใช้ไม่ได้ หากลืมก็ต้องสุญูดซะฮ์วี จริงหรือ อ่านวิเคราะห์หลักฐานทางวิชาการ เพื่อคุณจะได้มีคำตอบแก่ตัวเอง

รู้ทันชีอะฮ์



เผยกลลวงของชีอะห์ในการดึงมุสลิมออกจากอิสลาม
ตอบโต้ข้อกล่าวหา,ใส่ร้าย,ประณามศอฮาบะห์

ติดต่อและสั่งซื้อได้ที่
คุณยะอ์กู๊บ น้อยนงค์เยาว์
084 0004619


รวมวิดีโอ

>>..ดูทั้งหมด..<<


เมนูหลัก

 บริการหลัก
หน้าแรก
ถามตอบ
ติดต่อสอบถาม
แนะนำบอกต่อ
ค้นหา
แสดงสถิติ
ผลสำรวจ
ยอดฮิตติดอันดับ
 บริการสมาชิก
รายนามสมาชิก
 บริการข่าวสาร
 บริการอื่นๆ
ดาวน์โหลด
วิดีโอบรรยาย
ห้องแสดงภาพ
ฮะดีษแปลไทย


บทความรายวิชา








วิเคราะห์ข้อขัดแย้ง

  ศอฮาบะห์กางเต้นท์อ่านอัลกุรอานบนกุโบร์หรือ
  อัลกอมะห์กับแม่
  อิสลามเปลี่ยนวันใหม่ตอนมักริบไม่ใช่เที่ยงคืน
  เฝ้ากุโบร์ไม่ฮะราม..หรือ
  วิพากษ์หลักฐานเรื่องทำกุรบานให้คนตาย
  ถือศีลอดสิบวันแรกเดือนซุ้ลฮิจญะห์เป็นฮะดีษศอเฮียะห์หรือไม่
  วันที่ 9 ซุ้ลฮิจญะห์ที่ไม่มีอะรอฟะห์
  มีหลักฐานห้ามไหม
  กล่าวเท็จต่อท่านนบีว่า ท่านอ่านอัลกุรอานในกุโบร
  วิพากษ์หลักฐานการอ่านอัลกุรอานที่กุโบร์ ตอนที่ 3 คำรายงานที่ถูกต้องจากอิบนิอุมัร

[ดูเรื่องทั้งหมด]

บทความทั่วไป

  ทำบุญประเทศ
  เมื่อโลกหยุดหมุน
  ผีแม่ซื้อ
  ประเพณีการแต่งงานของมุสลิมภาคใต้
  อาซูรอ 10 มุฮัรรอม กับตำนานกวนซุฆอ
  เมาตาคือใคร
  ...ทาส... ตอนที่ 2
  ...ทาส... ตอนที่ 1
  เผยอะกีดะห์กลุ่มดะอ์วะห์ ตอนที่ 2
  เผยอะกีดะห์กลุ่มดะอ์วะห์ ตอนที่ 1

[ดูเรื่องทั้งหมด]

เหมือนหรือต่าง

ภาพเปรียบเทียบระหว่างพิธีการทรมานตนเองของชาวชีอะฮ์ อิหม่าม 12 ในวันที่ 10 มุฮัรรอมของทุกปี กับม้าทรงของศาลเจ้าสามกอง ในงานประจำปี จ.ภูเก็ต


ชีอะฮ์อิหม่ามสิบสอง

ม้าทรงศาลเจ้าสามกอง

ชีอะฮ์อิหม่ามสิบสอง

ม้าทรงศาลเจ้าสามกอง

ชีอะฮ์อิหม่ามสิบสอง


เวบลิ้งค์

มรดกอิสลาม
อัซซุนนะห์
ซุนนะห์ไซเบอร์
ชมรมวะรอซะตุซซุนนะฮฺ แนวร่วมมุสลิมต่อต้านรอฟิเฏาะ - ร่วมต่อต้านวันนี้ หรือจะรอให้สายเกินไป



มีผู้รายงานชีอะห์ในตำราซุนนะห์ด้วยหรือ





               เมื่อกล่าวถึงชีอะห์ คนไทยส่วนใหญ่จะนึกถึง แขกกรีดหัว ทำพิธีลุยไฟและทำร้ายตัวเองในวันอาชูรอ แต่นั้นเป็นพิธีกรรมที่บ่งบอกถึงความเชื่อของบางคนในลัทธิชีอะห์สิบสองอิหม่าม หรือบางคนเรียกว่า อิหม่ามสิบสอง เนื่องจากลัทธินี้ได้แพร่หลายอยู่ในประเทศไทย

               ความจริงแล้ว ยังมีชีอะห์ในลัทธินี้และนอกลัทธินี้อีกหลายกลุ่มที่ไม่มีความเชื่อและกระทำพฤติกรรมดังกล่าว ทำให้เราได้เห็นว่า ภายใต้ชื่อชีอะห์นั้น ยังคงมีกลุ่มและลัทธิที่มีความเชื่อและการกระทำที่แตกต่างกันออกไป

               อย่างไรก็ตาม  ความเชื่อของชีอะห์แต่ละกลุ่มนั้นก็ยังคงสะเปะสะปะ ตามแต่ใครจะยึดถือ เช่นบางคนเชื่อในเรื่อง รอจญ์อะห์ คือการที่ท่านอาลีจะกลับชาติมาเกิดอีกครั้ง และบางคนก็เชื่อว่าอัลกุรอานครบ และบางคนก็เชื่อว่าอัลกุรอานยังไม่ครบ บางคนบวงสรวงต่อฮุเซน และบางคนก็ขอความช่วยเหลือต่ออัลลอฮ์

               บางคนก็เป็นผู้ให้การสนับสนุนท่านอาลี และไม่ด่าประณามท่านอบูบักร์ อุมัร และบรรดาศอฮาบะห์ แต่บางคนก็ด่าประณามและกุเรื่องใส่ร้ายท่านอบูบักร์,อุมัร ภรรยาของท่านนบี และคนอื่นๆ

               ชีอะห์บางคนก็ให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ที่ไม่ใช่ชีอะห์ แต่บางคนก็มองว่าคนที่ไม่ใช่ชีอะห์ทั้งหมดคือศัตรูของพวกเขา ที่กล่าวมานี้เป็นเพียงสังเขปที่แสดงให้เห็นถึงความตากต่างของพวกเขา

               นอกจากนั้น เหล่าชีอะห์ในแต่ละยุคก็ยังมีความแตกต่างกันอีกด้วย หมายถึงชีอะห์ในยุคอดีตกับชีอะห์ในยุคปัจจุบัน

               บางคนอาจเป็นชีอะห์ แต่ไม่ใช่รอฟิเฏาะฮ์

               บางคนเป็นทั้งชีอะห์ และรอฟิเฎาะฮ์ควบคู่กัน

               บางคนเป็นทั้งชีอะห์ และรอฟิเฏาะฮ์ เลยเถิด

               และบางคนเป็นชีอะห์ และรอฟิเฏาะฮ์ สุดโต่ง



               รอฟิเฏาะอ์คือใคร


               ท่านอับดุลลอฮ์ ผู้เป็นบุตรชายของ อิหม่าม อะห์หมัด อิบนิ ฮัมบัล กล่าวว่า

ฉันถามพ่อของฉัน (อิหม่ามอะห์หมัด) เกี่ยวกับ รอฟิเฏาะฮ์ ท่านตอบว่า คือบรรดาผู้ซึ่งด่าหรือประณามอบูบักร์และอุมัร” (อัสซุนนะห์ ของอับดุลลอฮ์ บิน อะห์หมัด บินฮัมบัล ภาคที่ 2 หน้าที่ 542)

               กลุ่มรอฟิเฏาะฮ์ สุดโต่ง


               ตัวอย่างของกลุ่มรอฟิเฏาะฮ์ สุดโต่งเช่น กลุ่มอัลคิตอบียะห์ มีแกนนำชื่อ อบี อัลคิตอบ มูฮัมหมัด บิน อบี วะฮ์บิน อัลอะสะดีย์ อัลอัจญดะอ์ พฤติกรรมของคนกลุ่มนี้คือ อ้างว่าอาลีเป็นพระเจ้าองค์ใหญ่ และญะอ์ฟัร อัศศอดิกเป็นพระเจ้าองค์เล็ก พวกเขาอ้างว่า บรรดาอิหม่ามเป็นนบี อย่างนี้เป็นต้น


ท่านอิหม่ามชาฟีอี รอฮิมะฮุ้ลลอฮ์ รับการรายงานของคนที่ตามอารมณ์หากพิสูจน์ว่า เป็นไปไม่ได้ที่คำรายงานของเขาจะเป็นเท็จ แต่ท่านไม่รับการรายงานของคนโกหกอย่างกลุ่ม รอฟิเฏาะฮ์ อัลคิตอบียะห์” ( อัลมะบาฮิซ ฟี อุลูมิ้ลฮะดีษ หน้าที่ 232)


               กลุ่มรอฟิเฏาะฮ์เลยเถิด


               ตัวอย่างของกลุ่มรอฟิเฏาะฮ์ เลยเถิดนี้ เช่น กลุ่มที่ใส่ร้ายศอฮาบะห์ และด่าประณามท่านอบูบักร์ และอุมัร ภรรยาของท่านนบี และศอฮาบะห์ท่านอื่นๆ


               “
เมื่ออิหม่าม มาลิก ถูกถามเกี่ยวกับรอฟิเฏาะฮ์ ท่านตอบว่า อย่าได้สนทนากับพวกเขา และอย่ารายงานเรื่องใดๆจากพวกเขา

               และอิหม่ามชฟีอี กล่าวว่า ฉันไม่เคยเห็นใครจะตลบตะแลงไปยิ่งว่าพวกรอฟิเฏาะฮ์

               ยะซีด บินฮารูณ กล่าวว่า ยอมรับการรายงานของผู้ทำอุตริหากเขาไม่เรียกร้องไปสู่อุตริกรรมนั้น นอกจากกลุ่มรอฟิเฏาะฮ์

               ซุรอยก์ กล่าวว่า จงรับเอาความรู้จากทุกคนที่ท่านพบนอจากกลุ่มรอฟิเฏาะฮ์” (ตัดรีบุ้รรอวีย์ เล่มที่ 1 หน้าที่ 327 – 328)

               เมื่อในกลุ่มชีอะห์ และ รอฟิเฏาะฮ์ มีหลายพวก หลายระดับต่างกัน ดังนั้นบรรดานักวิชาการชาวซุนนะห์ก็มีความเป็นธรรม โดยไม่ตัดสินสถานภาพของผู้ใดแบบเหมารวมว่าจะรับหรือไม่รับการรายงานของพวกเขา แต่จะพิจารณาเป็นรายบุคคล  ตามหลักเกณฑ์การพิจารณาฮะดีษศอเฮียะห์และฮาซัน ซึ่งหนึ่งในเงื่อนไขของฮะดีษศอเฮียะห์และฮาซัน คือ อะดาละห์ หรือความเที่ยงธรรม นั่นคือการพิสูจน์ว่า ผู้รายงานมีความน่าเชื่อถือได้มากน้อยขนาดไหน



               สายรายงานของบุคอรีมีชีอะฮ์ด้วยหรือ
 

            กรณีนี้ คนลัทธิชีอะห์มักจะนำไปอ้างแบบลอยๆ เพื่อชี้นำคนทั่วไปให้เข้าใจผิด  เช่นกล่าวว่า “เป็นไปได้หรือไม่ที่ท่านบุคอรี และท่านมุสลิม ตลอดจนท่านอื่นๆเชื่อถือนักวิชาการชีอะฮ์เหล่านี้โดยที่ไม่รู้ถึงหลักศรัทธาของพวกเขา ?
               หรือกล่าวว่า  “ฮะดีษของซุนนีจำนวนมากทีเดียวจะต้องสูญหายไปถ้าหากหลักฐานจากผู้รายงานฮะดีษของชีอะฮ์ไม่เป็นที่ยอมรับ ซึ่งแสดงว่าถึงอย่างไรก็ตาม ฐานข้อมูลทางฮะดีษของชีอะอ์นั้นยังคงเป็นทางเลือกที่ปรมาจารย์ด้านฮะดีษของ อะฮฺลิสสุนนะฮ์ให้การยอมรับในฐานะหลักฐานที่น่าเชื่อถือจนถึงวันนี้”
              
เราจะตอบคำถามนี้สั้นๆ ด้วยการถามว่า ชีอะห์ในสายรายงานของบุคอรีนั้น มีผู้ใดเป็นชีอะห์ รอฟิเฏาะอ์ อิหม่ามสิบสองบ้าง ถ้ามีก็ขอให้ชี้มาว่าเป็นผู้ใด ถ้าไม่มี  ก็อย่าเอาคำว่าชีอะห์ไปครอบรวมหลอกผู้อื่น แต่....
               เปล่าเลย !! ไม่มีผู้รายงานในตำราฮะดีษของชาวซุนนะห์ที่เป็นชีอะห์ รอฟิเดาะฮ์ อิหม่ามสิบสอง แม้แต่คนเดียว
               เราได้กล่าวมาก่อนแล้วว่า นักวิชาการชาวซุนนะห์มีใจเป็นธรรม ไม่ตัดสินใครแบบเหมารวม แต่จะพิจารณาเป็นรายบุคคลว่าเชื่อถือได้มากน้อยขนาดไหน และด้วยกระบวนการแห่งศาสตร์ของฮะดีษว่าจะรับหรือไม่รับ ถ้าไม่รับเพราะเหตุใด ถ้ารับไว้จะรับในกรณีใด ซึ่งเป็นประเด็นที่น่าติดตาม เราจะยกตัวอย่างบรรดาผู้ถูกกล่าวว่าเป็นชีอะห์ในศอเฮียะห์บุคอรีให้ท่านเห็นดังนี้

               อุบัยดิลลาฮ์ บินมูซา

                 อุบัยดิลลาฮ์ บิน มูซา บิน อบีลมุคต๊าร บาซาม อัลอับซีย์ อัลกูฟีย์ มีสร้อยว่า อบู มูฮัมหมัด เสียชีวิตที่เมืองกูฟะห์ ปีที่ 213 ฮิจเราะห์ศักราช
               เป็นหนึ่งในสายรายงานของบุคอรี โดยรายงานเรื่องที่รับถ่ายทอดมาจากศอฮาบะห์ หลายท่านอธิเช่น อลี อิบนิ อบีตอลิบ, อับดุลลอฮ์ อิบนิ มัสอู๊ด, อับดุลลอฮ์ อิบนิ อับบาส, ญาบิร บิน อับดิลาฮ์ อัลอันศอรีย์, อัลบัรรออ์ บินอาซิบ, เซด บิน อัรกอม
               ที่สำคัญก็คือ อุบัยดิลลาฮ์ บินมูซา ได้รับเรื่องราวที่ถูกถ่ายทอดมาจาก ท่านหญิงอาอิชะห์ ปรากฏในศอเฮียะห์บุคอรี ฮะดีษเลขที่  123,1071,1072,1244,4596,5255, 6055 และมีฮะดีษบทหนึ่งที่ อุบัยดิลลาฮ์ บิน มูซา รายงานว่า

                ท่านหญิงอาอิชะห์ รายงานว่า ท่านบีได้กล่าวไว้ในช่วงที่ท่านใกล้เสียชีวิตว่า อัลลอฮ์สาปแช่งพวกยะฮูดและนอศอรอ พวกเขาได้ยึดเอาหลุมศพบรรดานบีของพวกเขาเป็นที่กราบไหว้ ท่านหญิงอาอิชะห์ กล่าวว่า หากไม่ใช่หลุมศพของบรรดานบี ก็จงทำให้หลุมศพของเขาชัดเจน เนื่องจากฉันเกรงว่าเขาจะยึดเอาเป็นที่กราบไหว้ศอเฮียะห์บุคอรี ฮะดีษเลขที่ 1244

                เราแปลกใจว่า ทำไม่ผู้ที่ถูกกล่าว่าเป็นชีอะห์ ถึงรายงานเรื่องห้ามการเอาหลุมศพเป็นที่กราบไหว้ ทั้งๆที่มีชีอะห์อีกจำนวนไม่น้อยยังคงกราบไหว้ หรือวิงวอนขอต่อหลุมศพของบรรดาอิหม่ามของพวกเขา ยิ่งไปกว่านั้น  อุบัยดิลลาฮ์ บินมูซา ยังรับคำรายงานเรื่องนี้ที่ถูกถ่ายทอดมาจากท่านหญิงอาอิชะห์เสียด้วย ทำไมเขาจึงไม่ปฏิเสธท่านหญิงอาอิชะห์ หรือด่าประณามเธอเหมือนดั่งที่ชีอะห์รอฟิเฏาะอ์ อิหม่ามสิบสองได้กระทำกัน อุบัยดิลลาฮ์ บิน มูซา เขาเป็นชีอะห์ประเภทไหนกันหนอ

               อับดุลรอซาก บิน ฮัมมาม

               อับดุลรอซาก บิน ฮัมมาม บิน นาเฟียอ์ อัลฮุมัยรีย์ อัลศอนอานีย์ มีสร้อยว่า อบูบักร์ มีถิ่นฐานอยู่ที่เมืองศอนอาอ์ และเสียชีวิตที่เมืองศอนอาอ์ ยะมัน  เกิดในปีที่ 126 และเสียชีวิตในเดือนเชาวาล ปีที่ 211 ฮิจเราะห์ศักราช (ดูคำวิจารณ์ผู้รายงานนี้ในหนังสือ มีซาลนุ้ลเอียะอ์ติดาล เล่มที่ 2 หน้าที่ 609 – 614 ลำดับที่ 5044)
               อับดุลรอซาก เป็นหนึ่งในสายรายงานของบุคอรี รับคำรายงานจากเรื่องที่ถ่ายทอดมาจากศอฮาบะห์หลายท่าน แต่ที่น่ากล่าวถึงก็คือ เขารับคำรายงานเรื่องที่ถ่ายทอดมาจากศอฮาบะห์ที่มีชื่อดังต่อไปนี้
               1.อบูฮุรอยเราะห์ ในศอเฮียะห์บุคอรี ฮะดีษเลขที 40,132,269,270,399,680,1164,1253,1830,1924,1931,2366,2372,2478,2508,2677,2686 เป็นต้น
               2.ท่านหญิงอาอิชะห์ บินติ อบีบักร์ ในศอเฮียะห์บุคอรี ฮะดีษเลขที่ 3291,3642,4574,6467,6674
               3.ท่านหญิงฮับเซาะห์ บินติ อุมัร ในศอเฮียะห์บุคอรี ฮะดีษเลขที่ 1554

               หากชีอะห์จะกล่าวว่า อับดุลรอซาก เป็นชีอะห์และเป็นหนึ่งในสายรายงานของบุคอรี เราก็แปลกใจเหลือเกินว่า เขาเป็นชีอะห์เช่นไร ถึงไม่รังเกียจและโจมตีกล่าวร้าย ท่านอบูฮุรอยเราห์,ท่านหญิงอาอิชะห์ และท่านหญิงฮับเซาะห์ นอกจากนั้นยังรับเอาคำรายงานเรื่องที่ถ่ายทอดจากบุคคลเหล่านี้อีกด้วย ต่างจากชีอะห์ รอฟิเฎาะอ์ อิหม่ามสิบสอง อย่างหน้ามือกับหลังมือ

               อับดุลมาลิก บิน อะอ์ยัน

              อับดุลมาลิก บิน อะอ์ยัน อัลกูฟี เป็นผู้ที่ถูกวิจารณ์ว่าเป็น รอฟิเฏาะฮ์ (ดูมีซาลนุ้ลเอียะอ์ติดาล เล่มที่ 2 หน้าที่ 651 ลำดับที่ 5190)
               ชีอะห์มักจะอ้างว่า เขาเป็นรอฟิเฏาะฮ์ แล้วท่านอิหม่ามบุคอรียังรับเขาเป็นผู้รายงาน ทำไม่ท่านไม่รู้ถึงอะกีดะห์ของเขาหรือ คำพูดเหล่านี้มักสร้างความหวั่นวิตกให้แก่ผู้ที่ไม่เข้าใจศาสตร์ฮะดีษและไม่สามารถตรวจสอบความจริงได้
               ความจริงแล้ว อิหม่ามบุคอรี มิได้รับรายงานฮะดีษจาก อับดุลมาลิก บิน อะอ์ยัน เพียงผู้เดียว หากแต่มีสายรายงานอื่นที่ศอเฮียะห์อีกหลายสายควบคู่กันไปด้วย และที่กล่าวมานี้คือฮะดีษเพียงบทเดียวจาก อับดุลมาลิกที่อิหม่ามบุคอรีเอาบันทึก ซึงตัวบทและสายรายงานมีดังนี้

ท่านนบี ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า ผู้ใดริดรอนทรัพย์สินของมุสลิมคนใดด้วยการสาบานเท็จ เขาจะได้พบกับอัลลอฮ์ในสภาพที่พระองค์ทรงโกรธเขา........ (บุคอรี ฮะดีษเลขที่ 6891)

               สายรายงานหลักของฮะดีษบทนี้คือ

               สายที่หนึ่ง อับดุลลอฮ์ อิบนุ้ลซุบัยร์, ซุฟยาน อิบนุ อุยัยนะห์, อับดุลมาลิก บิน อะอ์ยัน,  ซะกี๊ก ซะละมะห์, อับดุลลอฮ์ อิบนิ มัสอู๊ด
               สายที่สอง  อับดุลลอฮ์ อิบนุ้ลซุบัยร์, ซุฟยาน อิบนุ อุยัยนะห์, ญาเมียะอ์ บิน อบี รอชิด, ซะกี๊ก ซะละมะห์, อับดุลลอฮ์ อิบนิ มัสอู๊ด
               สายที่สาม อับดุลลอฮ์ บิน อุสมาน, มูฮัมหมัด บิน มัยมูน, สุไลมาน บิน มิฮ์รอน, ซะกี๊ก ซะละมะห์, อับดุลลอฮ์ อิบนิ มัสอู๊ด
               สายที่สี่ มูฮัมหมัด บินบซซาร, มูฮัมหมัด บิน อิบรอฮีม, ชัวอ์บะห์ บิน อัลฮัจญาจญ์, มันซูร บิน มัวอ์ตะมัร,  ซะกี๊ก ซะละมะห์, อับดุลลอฮ์ อิบนิ มัสอู๊ด

               นอกจากสายรายงานหลักทั้งสี่สายที่แสดงให้เห็นแล้ว ยังมีสายรายงานสมทบอีกจำนวนมาก แต่ที่แสดงให้เห็นนี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เราทราบว่า เพียงคำรายงานของ อับดุลมาลิก บิน อะอ์ยัน ที่ไปพ้องกับคำรายงานที่ศอเฮียะห์ของคนสายอื่น ท่านอิหม่ามบุคอรีก็ยังเอามาบันทึก แสดงให้เห็นถึงความเที่ยงธรรมของนักวิชาการซุนนะห์เป็นอย่างดี และถึงแม้จะตัดเอาสายรายงานของ อับดุลมาลิก บิน อะยัน ออกไปก็ตาม ฮะดีษบทนี้ก็ยังศอเฮียะห์ด้วยสายรายงานอื่นอีกมากมาย

               อับบาด บิน ยะอ์กู๊บ

               อับบาด บิน ยะอ์กู๊บ อัลละซะดีย์ อัรรอวาญีนีย์ อัลกูฟีย์ บุคคลผู้นี้ถูกวิจารณ์ว่า เป็นผู้ที่เลยเถิดในหมู่
ชีอะห์ พฤติกรรมของเขาคือ ประณามบรรพชน
               ศอและห์ ญะซะเราะห์ กล่าวว่า อับบาด บิน ยะอ์กู๊บ ได้ประณามอุสมาน และฉันเคยได้ยินเขากล่าวว่า อัลลอฮ์นั้นยุติธรรมเกินกว่าที่จะให้ ฏ็อลฮะห์ และ อัสซุบัยร์ ได้เข้าสวรรค์ ทั้งสองได้สู้รบกับอาลีหลังจากที่ให้สัตยาบันกับเขา  (ดูมีซาลนุ้ลเอียะอ์ติดาล เล่มที่ 2 หน้าที่ 379 ลำดับที่ 4149)
               ถ้าเช่นนั้นแล้ว เพราะเหตุใดอิหม่ามบุคอรีจึงรับฮะดีษของเขามาบันทึกไว้ในศอเฮียะห์ของท่าน คำตอบนี้ เราจะไม่กล่าวแต่เพียงว่ามีในบุคอรีเท่านั้น แต่เราจะชี้ให้เห็นว่ามีอย่างไร
               ฮะดีษที่รายงานโดย อับบาด บิน ยะอ์กู๊บ มีบันทึกในศอเฮียะห์บุคอรีเพียงฮะดีษเดียวเท่านั้น และก็มิได้เป็นฮะดีษต้นหลักของเรื่องที่รายงาน แต่เป็นหนึ่งใน “มุตาบาอาต” หรือสายรายงานสมทบที่แทรกไว้เท่านั้นเอง ดังนี้
 

               คำรายงานและสายรายงานหลัก

 حدثنا أبوالوليد حدثنا شعبة قال الوليد بن عيزار قال سمعت أبا عمرو الشيباني يقول أخبرنا صاحب هذه الدار وأومأ بيده الى دار عبد الله قال : سألت النبي صلى الله عليه وسلم أي العمل أحب الى الله قال الصلاة على وقتها........ 

อะบู้ลวะลีด รายงานให้เราฟังว่า ชัวอ์บะห์ รายงานให้เราฟังว่า  อัลวะลีด บิน อัยซาร กล่าวว่า ฉันเคยได้ยิน อะบาอัมร์ อัลชัยบานีย์ กล่าวว่า เจ้าของบ้านหลังนี้ได้บอกกับเรา และเขาก็ชี้มือไปที่บ้านของอัลดุลลอฮ์ (อิบนิ มัสอู๊ด) โดยกล่าวว่า ฉันได้ถามท่านนบี ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ว่า งานอะไรเป็นที่รัก ณ.ที่อัลลอฮ์ มากที่สุด ท่านตอบว่า การละหมาดในเวลาของมัน.........   (บุคอรี ฮะดีษเลขที่ 496 และ 5513)

               คำรายงานและสายรายงานหลักดังปรากฏข้างต้น ไม่มีชื่อของ อับบาด บิน ยะอ์กู๊บ

               สายรายงานสมทบ

               1 อัลฮะซัน (อิบนุศ๊อบบาฮ์) จากมูฮัมหมัด จากมาลิก บินมิฆวัล จากอัลวะลีด (อิบนุ้ลอัยยาซ)  จาก ซะอด์ บิน อิยาซ (อะบาอัมร์ อัลชัยบานี) จาก อับดุลลอฮ์ อิบนิ มัสอู๊ด (สายรายจากงานบุคอรี ฮะดีษเลขที่ 2574)
               2 สุลัยมาน (บินฮัรบ์) จากชัวอ์บะห์ (บินฮัจญาจญ์) จาก อัลวะลีด (อิบนุลอัยยาซ) จากซะอด์ บิน อิยาซ (อะบาอัมร์ อัลชัยบานีย์) จาก อับดุลลอฮ์ อิบนิ มัสอู๊ด (สายรายงานจากบุคอรี ฮะดีษเลขที่ 6980)
               3 อับบาด บิน ยะอ์กู๊บ จาก อับบาด บิน อัลเอาวาม จาก สุไลมาน (อิบนุอบีสุไลมาน อัลชัยบานี) จาก อัลวะลีด (อิบนุอัยยาซ) จาก ซะอด์ บินอิยาซ  จาก อับดุลลอฮ์ อิบนิ มัสอู๊ด (สายรายงานนี้ อิหม่ามบุคอรีระบุไว้ในบทเดียวกับลำดับที่ 2 ฮะดีษเลขที่ 6980)

               เพียงฮะดีษบทเดียวที่อิหม่ามบุคอรีได้รับเอาคำรายงานของ อับบาด บิน ยะอ์กู๊บไว้ ในสถานะสายรายงานสมทบ และถึงแม้ว่าจะตัดสายรายงานของอับบาดออกไป ฮะดีษในเรื่องนี้ก็ยังมีสายรายงานศอเฮียะห์หลักและรายงานสมทบอื่นๆ อยู่แล้ว

               ดังนั้นโปรดอย่าหวั่นไหวกับคำโพทะนาของชีอะห์อิหม่ามสิบสองที่ว่า “มีชีอะห์เป็นผู้รายงานฮะดีษในตำราของชาวซุนนี” แต่ขอให้พิจารณาว่า เขาเป็นชีอะห์จริงหรือไม่ และเป็นชีอะห์ประเภทไหน และถูกนำมารายงานไว้ในกรณีใด


               กรณีตัวอย่างของอิบนุ อะบีดาริม

                เมื่อท่านได้ยินชื่อ อบูบักร์ อัลกูฟีย์ ที่ปรากฏอยู่ในสายรายงานของมุสลิม ก็อย่าเข้าใจว่า เขาเป็นคนเดียวกับ อิบนุ อบีดาริม แต่เขาคือ แต่เขาคือ อบูบักร์ อิบนุ อบีชัยบะห์ เป็นตาบีอีน อวุโส เสียชีวิตปีที่  235 ฮิจเราะห์ศักราช

               ส่วนอิบนิ อะบีดาริม ที่จั่วหัวข้อไว้ถูกเรียกว่า อบูบักร์ อัลกูฟีย์ เสียชีวิตปีที่ 357 บางรายงานว่าปี 352 ฮิจเราะห์ศักราช เขาเป็นชีอะห์ รอฟิฏีย์ ที่คำรายงานของเขาถูกปฏิเสธ

               ชีอะห์ถามว่า

               ด้วยเพียงข้อหาว่าเป็นชีอะห์ การรายงานของจะถือเป็นโมฆะใช้ไม่ได้เลยหรือ??

               ถ้านักรายงานอย่าง อิบนุ อะบีดาริมเป็นชีอะฮ์จริง

               "คำรายงานของเขาจะหมดความเชื่อถือโดยปริยายเลยหรือ??

                คำตอบคือ

               อิบนุ อะบีดาริม หรือ อบูบักร์ อัลกูฟีย์ ไม่ใช่เป็นแค่เพียงชีอะห์และรอฟิเฏาะฮ์เท่านั้น แต่เขายังถูกกำกับสรรพคุณด้วยคำว่า “จอมโกหก” เช่นการที่ท่าน ฮาฟิซ อัสซะฮะบี ได้กล่าวไว้ในการแจงประวัติของเขา ว่า

 أبوبكر الكوفي الرافضي الكذاب 

“อบูบักร์ อัลกูฟีย์ คือรอฟิเฏาะฮ์ จอมโกหก” (มีซานุ้ลเอียะอ์ติดาล เล่มที่ 1 หน้าที่ 139 ลำดับที่ 552)

               การเป็นจอมโกหกนี้ทำให้คำรายงานของเขาถูกปฏิเสธ  ไม่ว่านักรายงานผู้นั้นจะเป็นชีอะห์หรือไม่ก็ตาม

               มีผู้แอบอ้างว่า อิบนุ อบีดาริม เป็นคนหนึ่งในสายรายงานฮะดีษของอิหม่ามบุคอรี  ขอชี้แจงว่า เรื่องนี้เป็นความเท็จ เนื่องจากอิหม่ามบุคอรี เกิดปีที่ 194 และเสียชีวิตปีที่ 256 ฮิจเราะห์ศักราช ส่วนอิบนุ อบีดาริม เสียชีวิตปีที่ 357 ฮิจเราะห์ศักราช ดังนั้นอิหม่ามบุคอรีจึงเสียชีวิตก่อน อิบนุ อะบีดาริม ตั้ง 101 ปี

               แต่สิ่งที่ปรากฏคำวิจารณ์ในหนังสือ ซิยะรุ้ลอะอ์ลามิ้ลนุบะลาอ์  (15/557) นั้นคือ อิบนุ อบีดาริม อ้างฮะดีษ มุตตะฟะกุนอลัย โดยเฉพาะอ้างสายรายงานของบุคอรี เอาไปรายงานต่อ

               มิใช่ อิหม่ามบุคอรี รับรายงานจาก อิบนุ อะบีดาริม จะให้คนตายฟื้นขึ้นมารับการรายงานฮะดีษจากคนเป็น, เป็นเรื่องตลกและโกหกสิ้นดี

 








สงวนลิขสิทธิ์โดย © อ.ฟารีด เฟ็นดี้ All Right Reserved.

ติดประกาศ: 2010-12-28 (5384 ครั้ง)

[ ย้อนกลับ ]