มุสลิม/หมวดที่4/บทที่11/ฮะดีษเลขที่ 0775

 

وَحَدَّثَنَاهُ إِسْحَاقُ بْنُ إِبْرَاهِيمَ الْحَنْظَلِيُّ، أَخْبَرَنَا سُفْيَانُ بْنُ عُيَيْنَةَ، عَنِ الْعَلاَءِ، عَنْ أَبِيهِ، عَنْ أَبِي هُرَيْرَةَ، عَنِ النَّبِيِّ صلى الله عليه وسلم قَالَ " مَنْ صَلَّى صَلاَةً لَمْ يَقْرَأْ فِيهَا بِأُمِّ الْقُرْآنِ فَهْىَ خِدَاجٌ - ثَلاَثًا - غَيْرُ تَمَامٍ " . فَقِيلَ لأَبِي هُرَيْرَةَ إِنَّا نَكُونُ وَرَاءَ الإِمَامِ . فَقَالَ اقْرَأْ بِهَا فِي نَفْسِكَ فَإِنِّي سَمِعْتُ رَسُولَ اللَّهِ صلى الله عليه وسلم يَقُولُ " قَالَ اللَّهُ تَعَالَى قَسَمْتُ الصَّلاَةَ بَيْنِي وَبَيْنَ عَبْدِي نِصْفَيْنِ وَلِعَبْدِي مَا سَأَلَ فَإِذَا قَالَ الْعَبْدُ { الْحَمْدُ لِلَّهِ رَبِّ الْعَالَمِينَ‏} . قَالَ اللَّهُ تَعَالَى حَمِدَنِي عَبْدِي وَإِذَا قَالَ { الرَّحْمَنِ الرَّحِيمِ‏} . قَالَ اللَّهُ تَعَالَى أَثْنَى عَلَىَّ عَبْدِي . وَإِذَا قَالَ { مَالِكِ يَوْمِ الدِّينِ‏} . قَالَ مَجَّدَنِي عَبْدِي - وَقَالَ مَرَّةً فَوَّضَ إِلَىَّ عَبْدِي - فَإِذَا قَالَ { إِيَّاكَ نَعْبُدُ وَإِيَّاكَ نَسْتَعِينُ‏} . قَالَ هَذَا بَيْنِي وَبَيْنَ عَبْدِي وَلِعَبْدِي مَا سَأَلَ . فَإِذَا قَالَ { اهْدِنَا الصِّرَاطَ الْمُسْتَقِيمَ * صِرَاطَ الَّذِينَ أَنْعَمْتَ عَلَيْهِمْ غَيْرِ الْمَغْضُوبِ عَلَيْهِمْ وَلاَ الضَّالِّينَ‏} . قَالَ هَذَا لِعَبْدِي وَلِعَبْدِي مَا سَأَلَ " . قَالَ سُفْيَانُ حَدَّثَنِي بِهِ الْعَلاَءُ بْنُ عَبْدِ الرَّحْمَنِ بْنِ يَعْقُوبَ دَخَلْتُ عَلَيْهِ وَهُوَ مَرِيضٌ فِي بَيْتِهِ فَسَأَلْتُهُ أَنَا عَنْهُ

  


 
                อบูฮุรอยเราะห์ รายงานว่า ท่านนบี ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า มุสลิมคนใดที่ละหมาดโดยไม่อ่านแม่บทของอัลกุรอาน (ซูเราะห์อัลฟาติฮะห์) การละหมาดนั้นบกพร่องไม่สมบูรณ์ ท่านกล่าวเช่นนี้สามครั้ง มีผู้ถาม อบูฮุรอยเราะห์ว่า แท้จริงพวกเราละหมาดตามหลังอิหม่าม (ที่อ่านซูเราะห์อัลฟาติฮะห์) เขาตอบว่า จงอ่านมันในใจของเจ้า แท้จริงฉันเคยได้ยินท่านรอซูลุ้ลลอฮ์ ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
                พระองค์อัลลอฮ์ ได้ทรงกล่าวว่า ข้าได้แบ่งการละหมาดระหว่างข้ากับบ่าวของข้าเป็นสองส่วน และสำหรับบ่าวของข้าจะได้รับในสิ่งที่เขาขอ  ดังนั้นเมื่อบ่าวได้กล่าวว่า อัลฮัมดุลิลลาฮิร๊อบบิลอาละมีน (มวลการสรรเสริญเป็นกรรมสิทธิ์แด่พระองค์อัลลอฮ์) พระองค์อัลลอฮ์ผู้สูงส่งก็จะกล่าวว่า บ่าวของข้าได้สรรเสริญข้า และเมื่อเขากล่าวว่า อัลเราะห์มานนิรร่อฮีม  (ผู้ทรงเมตตาต่อสรรพสิ่งในดุนยา และเมตตาต่อผู้ศรัทธาในอาคิเราะห์) พระองค์อัลลลอฮ์ผู้สูงส่งก็จะกล่าวว่า บ่าวของข้าได้สดุดีต่อข้า และเมื่อเขากล่าวว่า มาลิกิเยาว์มิดดีน (ผู้ทรงกรรมสิทธิ์ฝในวันตอบแทน) พระองค์ก็จะกล่าวว่า บ่าวของข้าได้ยกย่องข้า และพระองค์กล่าวอีกครั้งว่า บ่าวของข้าได้มอบหมายภารกิจต่อข้า และเมื่อเขากล่าวว่า อียากะนะอ์บุดุ วะอียากะนัศตะอีน  (เฉพาะพระองค์เท่านั้นที่ข้าจักสักการะ และเฉพาะพระองค์เท่านั้นที่ข้าจะขอความช่วยเหลือ) พระองค์จะกล่าวว่า นี่คือระหว่างข้ากับบ่าวของข้า และสำหรับบ่าวของข้า เขาจะได้รับในสิ่งที่เขาขอ  เมื่อเขากล่าวว่า อิฮ์ดินัศศิรอตอลมุสตะกีม ศิรอตอลละซีนะอันอัมตะอะลัยฮิม ฆอยริ้ลมัฆดูบิอลัยฮิม วะลัดฏอลลีน  (ขอพระองค์ทรงนำทางเราสู่ทางเที่ยงตรงด้วยเถิด คือทางที่พระองค์ทรงพอพระทัยพวกเขามาแล้ว ซึ่งไม่ใช่แนวทางของกลุ่มชนที่ถูกโกรธและกลุ่มชนที่หลงผิด) พระองค์จะกล่าวว่า สิ่งนี้สำหรับบ่าวของข้า และบ่าวของข้าจะได้รับในสิ่งที่เขาขอ
                ซุฟยานกล่าวว่า อัลอะลาอ์ อิบนุ อับดิลเราะห์มาน บินยะอ์กู๊บ เล่าให้ฉันฟังว่า ฉันได้เข้าไปเยี่ยมเขาที่บ้านในขณะที่เขาป่วย และฉันได้ถามเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้

               





ฮะดีษนี้มาจาก อ.ฟารีด เฟ็นดี้
http://www.fareedfendy.com

URL สำหรับเรื่องนี้คือ:
http://www.fareedfendy.com/modules.php?name=Sections2&op=viewarticle2&artid=1109