أَخْبَرَنَا أَبُو عُمَيْسٍ، قَالَ سَمِعْتُ أَبَا صَخْرَةَ، يَذْكُرُ عَنْ عَبْدِ الرَّحْمَنِ بْنِ يَزِيدَ، وَأَبِي، بُرْدَةَ بْنِ أَبِي مُوسَى قَالاَ أُغْمِيَ عَلَى أَبِي مُوسَى وَأَقْبَلَتِ امْرَأَتُهُ أُمُّ عَبْدِ اللَّهِ تَصِيحُ بِرَنَّةٍ . قَالاَ ثُمَّ أَفَاقَ قَالَ أَلَمْ تَعْلَمِي - وَكَانَ يُحَدِّثُهَا - أَنَّ رَسُولَ اللَّهِ صلى الله عليه وسلم قَالَ " أَنَا بَرِيءٌ مِمَّنْ حَلَقَ وَسَلَقَ وَخَرَقَ "
อบูอุมัยช์ ได้บอกกับเราโดยกล่าวว่า ฉันเคยได้ยิน อบาศ็อคเราะห์ เล่าจากอับดุรเราะห์มาน บินยะซีด และอบีบุรดะห์ บินอบีมูซา ทั้งสองกล่าวว่า อบูมูซา (เจ็บหนัก) ไม่รู้สึกตัว และอุมมุอับดิลลาห์ ภรรยาของเขาได้รีบมาที่นั่น โดยร้องสะอึกสะอื้นอย่างเสียงดัง ทั้งสองรายงานว่า หลังจากอบูมูซารู้สึกตัวก็กล่าวว่า เธอไม่รู้เลยหรืออย่างไร แล้วเขาก็ให้เธอฟังว่า แท้จริงท่านรอซูลุ้ลลอฮ์ ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า “ฉันบริสุทธิ์ (ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง) กับผู้ที่โกนศีรษะ, คร่ำครวญด้วยเสียงดัง, และการฉีกเสื้อผ้า” (ซึ่งเป็นพฤติกรรมของญาฮิลีญะห์เมื่อประสบภัยพิบัติ,มีทุกข์โศก หรือเมื่อมีการตายเกิดขึ้น)