บุคคอรี/หมวดที่2/บทที่37/ฮะดีษเลขที่ 50

 

عَنْ أَبِي هُرَيْرَةَ، قَالَ كَانَ النَّبِيُّ صلى الله عليه وسلم بَارِزًا يَوْمًا لِلنَّاسِ، فَأَتَاهُ جِبْرِيلُ فَقَالَ مَا الإِيمَانُ قَالَ " الإِيمَانُ أَنْ تُؤْمِنَ بِاللَّهِ وَمَلاَئِكَتِهِ وَبِلِقَائِهِ وَرُسُلِهِ، وَتُؤْمِنَ بِالْبَعْثِ "‏‏. قَالَ مَا الإِسْلاَمُ قَالَ " الإِسْلاَمُ أَنْ تَعْبُدَ اللَّهَ وَلاَ تُشْرِكَ بِهِ، وَتُقِيمَ الصَّلاَةَ، وَتُؤَدِّيَ الزَّكَاةَ الْمَفْرُوضَةَ، وَتَصُومَ رَمَضَانَ "‏‏. قَالَ مَا الإِحْسَانُ قَالَ " أَنْ تَعْبُدَ اللَّهَ كَأَنَّكَ تَرَاهُ، فَإِنْ لَمْ تَكُنْ تَرَاهُ فَإِنَّهُ يَرَاكَ "‏‏. قَالَ مَتَى السَّاعَةُ قَالَ " مَا الْمَسْئُولُ عَنْهَا بِأَعْلَمَ مِنَ السَّائِلِ، وَسَأُخْبِرُكَ عَنْ أَشْرَاطِهَا إِذَا وَلَدَتِ الأَمَةُ رَبَّهَا، وَإِذَا تَطَاوَلَ رُعَاةُ الإِبِلِ الْبُهْمُ فِي الْبُنْيَانِ، فِي خَمْسٍ لاَ يَعْلَمُهُنَّ إِلاَّ اللَّهُ "‏‏. ثُمَّ تَلاَ النَّبِيُّ صلى الله عليه وسلم {‏إِنَّ اللَّهَ عِنْدَهُ عِلْمُ السَّاعَةِ‏} الآيَةَ‏. ثُمَّ أَدْبَرَ فَقَالَ " رُدُّوهُ "‏‏. فَلَمْ يَرَوْا شَيْئًا‏. فَقَالَ " هَذَا جِبْرِيلُ جَاءَ يُعَلِّمُ النَّاسَ دِينَهُمْ "‏‏. قَالَ أَبُو عَبْدِ اللَّهِ جَعَلَ ذَلِكَ كُلَّهُ مِنَ الإِيمَانِ‏.  

               
อบีฮุรอยเราะห์ รายงานว่า ท่านนบี ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ขณะที่ได้ปรากฏตัวต่อหน้ามวลชนอยู่นั้น มีชายผู้หนึ่งมาหาท่าน แล้วถามว่า อีหม่าน คืออะไร
? ท่านตอบว่า อีหม่าน คือการที่ท่านจะต้องศรัทธาต่อพระองค์อัลลอฮ์, ต่อมะลาอิกะห์ของพระองค์, ศรัทธาต่อการกลับไปพบพระองค์ และศรัทธาต่อบรรดารอซูลของพระองค์, และศรัทธาต่อการฟื้นคืนชีพ (ในวันกิยามะห์) เขาถามต่ออีกว่า อิสลาม คืออะไร ? ท่านตอบว่า อิสลาม คือการที่ท่านจะต้องสักการะต่อพระองค์อัลลอฮ์ โดยไม่นำสิ่งใดมาเป็นภาตีกับพระองค์ และการที่ท่านจะต้องดำรงละหมาด,จ่ายซะกาตที่เป็นข้อบัญญัติ และถือศีลอดเดือนรอมฏอน เขาถามว่า อัลเอียะห์ซาน คืออะไร ? ท่านตอบว่า  คือการที่ท่านจะต้องสักการะต่อพระองค์อัลลอฮ์ประหนึ่งว่าท่านได้เห็นพระองค์ หากแต่ท่านไม่ได้เห็นพระองค์ แต่พระองค์ทรงเห็นท่าน  เขาถามว่า กาลอวสาน จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ท่านตอบว่า ผู้ถูกถามก็ไม่รู้ดีไปกว่าผู้ถาม แต่ฉันจะบอกถึงสัญญาณของมัน คือ เมื่อนางทาสคลอดผู้เป็นนายของนางออกมา และเมื่อผู้เลี้ยงอูฐ, ผู้ต้อนฝูงแกะ แข่งขันกันสร้างอาคารสูง (นี่คือสัญญาณของมัน) และยังมีอีกห้าประการซึ่งไม่มีผู้ใดล่วงรู้นอกจากอัลลอฮ์ หลังจากนั้นท่านก็อ่านอัลกุรอาน อายะห์ที่ว่า แท้จริงอัลลอฮ์นั้น ความรู้เรื่องกาลอวสานมีอยู่ ณ.ที่พระองค์ ซูเราะห์ลุกมาน อายะห์ที่ 34)
                หลังจากนั้นผู้ถามก็กลับไป ท่านนบีจึงกล่าวว่า พวกเจ้าไปตามเขากลับมา (เมื่อพวกเขาไปตามหา) ก็ไม่พบร่องรอยใดๆ เลย ท่านนบีได้กล่าวว่า เขาคือญิบรีลที่มาสอนผู้คนในเรื่อง (หลักสำคัญ) ของศาสนา

 
                อบูอับดิลลาฮ์ (อิหม่ามบุคคอรี) กล่าวว่า ท่านนบีได้พิจารณาว่าทุกสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งของการศรัทธา


  อ้างอิงเพิ่มเติม ฮะดีษเลขที่ 4777





ฮะดีษนี้มาจาก อ.ฟารีด เฟ็นดี้
http://www.fareedfendy.com

URL สำหรับเรื่องนี้คือ:
http://www.fareedfendy.com/modules.php?name=Sections2&op=viewarticle2&artid=264