มุสลิม/หมวดที่1/บทที่59/ฮะดีษเลขที่ 0228

 

عَنْ أَبِي هُرَيْرَةَ، قَالَ لَمَّا نَزَلَتْ عَلَى رَسُولِ اللَّهِ صلى الله عليه وسلم { لِلَّهِ مَا فِي السَّمَوَاتِ وَمَا فِي الأَرْضِ وَإِنْ تُبْدُوا مَا فِي أَنْفُسِكُمْ أَوْ تُخْفُوهُ يُحَاسِبْكُمْ بِهِ اللَّهُ فَيَغْفِرُ لِمَنْ يَشَاءُ وَيُعَذِّبُ مَنْ يَشَاءُ وَاللَّهُ عَلَى كُلِّ شَىْءٍ قَدِيرٌ‏} قَالَ فَاشْتَدَّ ذَلِكَ عَلَى أَصْحَابِ رَسُولِ اللَّهِ صلى الله عليه وسلم فَأَتَوْا رَسُولَ اللَّهِ صلى الله عليه وسلم ثُمَّ بَرَكُوا عَلَى الرُّكَبِ فَقَالُوا أَىْ رَسُولَ اللَّهِ كُلِّفْنَا مِنَ الأَعْمَالِ مَا نُطِيقُ الصَّلاَةُ وَالصِّيَامُ وَالْجِهَادُ وَالصَّدَقَةُ وَقَدْ أُنْزِلَتْ عَلَيْكَ هَذِهِ الآيَةُ وَلاَ نُطِيقُهَا . قَالَ رَسُولُ اللَّهِ صلى الله عليه وسلم " أَتُرِيدُونَ أَنْ تَقُولُوا كَمَا قَالَ أَهْلُ الْكِتَابَيْنِ مِنْ قَبْلِكُمْ سَمِعْنَا وَعَصَيْنَا بَلْ قُولُوا سَمِعْنَا وَأَطَعْنَا غُفْرَانَكَ رَبَّنَا وَإِلَيْكَ الْمَصِيرُ " . قَالُوا سَمِعْنَا وَأَطَعْنَا غُفْرَانَكَ رَبَّنَا وَإِلَيْكَ الْمَصِيرُ . فَلَمَّا اقْتَرَأَهَا الْقَوْمُ ذَلَّتْ بِهَا أَلْسِنَتُهُمْ فَأَنْزَلَ اللَّهُ فِي إِثْرِهَا { آمَنَ الرَّسُولُ بِمَا أُنْزِلَ إِلَيْهِ مِنْ رَبِّهِ وَالْمُؤْمِنُونَ كُلٌّ آمَنَ بِاللَّهِ وَمَلاَئِكَتِهِ وَكُتُبِهِ وَرُسُلِهِ لاَ نُفَرِّقُ بَيْنَ أَحَدٍ مِنْ رُسُلِهِ وَقَالُوا سَمِعْنَا وَأَطَعْنَا غُفْرَانَكَ رَبَّنَا وَإِلَيْكَ الْمَصِيرُ‏} فَلَمَّا فَعَلُوا ذَلِكَ نَسَخَهَا اللَّهُ تَعَالَى فَأَنْزَلَ اللَّهُ عَزَّ وَجَلَّ { لاَ يُكَلِّفُ اللَّهُ نَفْسًا إِلاَّ وُسْعَهَا لَهَا مَا كَسَبَتْ وَعَلَيْهَا مَا اكْتَسَبَتْ رَبَّنَا لاَ تُؤَاخِذْنَا إِنْ نَسِينَا أَوْ أَخْطَأْنَا‏} قَالَ نَعَمْ { رَبَّنَا وَلاَ تَحْمِلْ عَلَيْنَا إِصْرًا كَمَا حَمَلْتَهُ عَلَى الَّذِينَ مِنْ قَبْلِنَا‏} قَالَ نَعَمْ { رَبَّنَا وَلاَ تُحَمِّلْنَا مَا لاَ طَاقَةَ لَنَا بِهِ‏} قَالَ نَعَمْ { وَاعْفُ عَنَّا وَاغْفِرْ لَنَا وَارْحَمْنَا أَنْتَ مَوْلاَنَا فَانْصُرْنَا عَلَى الْقَوْمِ الْكَافِرِينَ‏} قَالَ نَعَمْ .  


               
อบีฮุรอยเราะห์ รายงานว่า หลังจากอายะห์นี้ถูกประทานลงมาให้แก่ท่านรอซูลุ้ลลอฮ์ ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม
สิ่งที่มีในแผ่นดินและสิ่งที่มีในฟากฟ้านั้นล้วนเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮ์ และหากพวกเจ้าเปิดเผยสิ่งที่อยู่ในใจของพวกเจ้า หรือปกปิดมันไว้ อัลลอฮ์ก็จะคิดบัญชีกับมันด้วย แต่อัลลอฮ์จะทรงอภัยโทษให้แก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ และลงโทษต่อผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์เช่นกัน และอัลลอฮ์นั้นทรงเดชานุภาพเหนือทุกสิ่ง (ซูเราะห์อัลบะกอเราะห์ อายะห์ที่ 284)
                ดังนั้นมันจึงทำให้เกิดความยากลำบากแก่ศอฮาบะห์ของท่านรอซูลุ้ลลอฮ์ ศ็อลล็อลลอฮุอบัยฮิวะซัลลัม เป็นอย่างยิ่ง พวกเขาจึงมาหาท่านรอซูลุ้ลลอฮ์ ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม พร้อมทั้งคุกเข่าลงต่อหน้าท่านแล้วกล่าวว่า  ท่านศาสนทูตของอัลลอฮ์ พวกเราถูกกำหนดให้กระทำสิ่งต่างๆ ที่เรามีความสามารถ ไม่ว่าจะละหมาด, ถือศีลอด, การต่อสู้ในวิถีทางของอัลลอฮ์, และการบริจาค แต่อายะห์นี้ได้ถูกประทานลงมายังท่าน โดยที่พวกเราไม่มีความสามารถที่จะปฏิบัติ
                ท่านรอซูลุ้ลลอฮ์ ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า พวกเจ้าต้องการที่จะกล่าวเหมือนดังที่ชาวคัมภีร์ก่อนหน้าพวกเจ้าได้กล่าวว่า พวกเราได้ยินแล้วแต่พวกเราไม่เชื่อฟัง เช่นนั้นหรือ ?    ฉะนั้นพวกเจ้าจงกล่าวว่า พวกเราได้ยิน (คำสั่ง) และพวกเราก็จงรักภักดี, ขอพระองค์ทรงอภัยโทษด้วยเถิด องค์อภิบาลของเราเอ๋ย และเราต้องกลับคืนสูพระองค์
                หลังจากนั้นพวกเขาก็กล่าวกันว่า พวกเราได้ยิน (คำสั่ง) และพวกเราก็จงรักภักดี, ขอพระองค์ทรงอภัยโทษด้วยเถิด องค์อภิบาลของเราเอ๋ย และเราต้องกลับคืนสู่พระองค์ และเมื่อผู้คนได้กล่าวประโยคนี้กันจนติดปากดีแล้ว พระองค์อัลลอฮ์จึงได้ประทานอายะห์นี้ตามมาสำทับว่า
                รอซูลนั้นศรัทธาต่อสิ่งที่ถูกประทานลงมายังเขา และบรรดาผู้ศรัทธาก็เช่นเดียวกัน ทั้งหมดต่างก็ศรัทธาต่ออัลลอฮ์, มะลาอิกะห์ของพระองค์, บรรดาคัมภีร์ของพระองค์ และบรรดาศาสนทูตของพระองค์ โดยไม่แยกศรัทธาระหว่างคนใดในบรรดาศาสนทูตของพระองค์ แต่พวกเขากล่าวว่า พวกเราได้ยิน (คำสั่ง) และพวกเราก็จงรักภักดี, ขอพระองค์ทรงอภัยโทษด้วยเถิด องค์อภิบาลของเราเอ๋ย และเราต้องกลับคืนสู่พระองค์ (ซูเราะห์อัลบะกอเราะห์ อายะห์ที่ 285)
                หลังจากที่พวกเขาปฏิบัติกันจนชินแล้ว พระองค์อัลลอฮ์ก็ได้ทรงยกเลิกข้อบัญญัตินี้ โดยพระองค์อัลลอฮ์ได้ทรงประทานอายะห์ต่อไปนี้มาคือ
                อัลลอฮ์ไม่ทรงบังคับชีวิตใด (ที่เกินกำลัง) นอกจากที่เขามีความสามรถเท่านั้น, แต่ละชีวิตจะได้รับ (การตอบแทนรางวัล) ในสิ่งที่เขาแสวงหาไว้ และแต่ละชีวิตจะได้รับ (การลงโทษ) ตามสิ่งที่เขาได้ขวนขวายไว้  องค์อภิบาลของเราเอ๋ย ขอได้โปรดอย่าเอาโทษเรา หากเราลืมหรือกระทำผิดโดยไม่เจตนา  ท่านรอซูลกล่าวว่า ใช่ครับ องค์อภิบาลของเราเอ๋ย ขอได้โปรดอย่าให้พวกเราแบกภาระที่หนัก ดั่งเช่นที่พระองค์ได้ทรงให้เป็นภาระหนักแก่ชนก่อนหน้าพวกเรามาแล้ว ท่านรอซูลกล่าวว่า ใช่ครับ องค์อภิบาลของเราเอ๋ย ขอได้โปรดอย่าให้พวกเราแบกภาระหนักในสิ่งที่เราไม่มีความสามารถจะแบกรับมันได้ ท่านรอซูลกล่าวว่า ใช่ครับ ขอได้โปรดอภัยและทรงยกโทษให้แก่พวกเรา และเมตตาแก่พวกเราด้วยเถิด พระองค์เป็นผู้ทรงดูแลพวกเรา ฉะนั้นขอพระองค์ทรงช่วยเหลือพวกเราให้มีชัยชนะเหนือกลุ่มชนผู้ปฏิเสธการศรัทธาด้วยเถิด ท่านรอซูล กล่าวว่า ใช่ครับ  (ซูเราะห์อัลบะกอเราะห์ อายะห์ที่ 286)
             



ฮะดีษนี้มาจาก อ.ฟารีด เฟ็นดี้
http://www.fareedfendy.com

URL สำหรับเรื่องนี้คือ:
http://www.fareedfendy.com/modules.php?name=Sections2&op=viewarticle2&artid=367