มุสลิม/หมวดที่1/บทที่86/ฮะดีษเลขที่ 0367
أَخْبَرَنِي أَبُو الزُّبَيْرِ، أَنَّهُ سَمِعَ جَابِرَ بْنَ عَبْدِ اللَّهِ، يُسْأَلُ عَنِ الْوُرُودِ، فَقَالَ نَجِيءُ نَحْنُ يَوْمَ الْقِيَامَةِ عَنْ كَذَا، وَكَذَا، انْظُرْ أَىْ ذَلِكَ فَوْقَ النَّاسِ - قَالَ - فَتُدْعَى الأُمَمُ بِأَوْثَانِهَا وَمَا كَانَتْ تَعْبُدُ الأَوَّلُ فَالأَوَّلُ ثُمَّ يَأْتِينَا رَبُّنَا بَعْدَ ذَلِكَ فَيَقُولُ مَنْ تَنْظُرُونَ فَيَقُولُونَ نَنْظُرُ رَبَّنَا ‏.‏ فَيَقُولُ أَنَا رَبُّكُمْ ‏.‏ فَيَقُولُونَ حَتَّى نَنْظُرَ إِلَيْكَ ‏.‏ فَيَتَجَلَّى لَهُمْ يَضْحَكُ - قَالَ - فَيَنْطَلِقُ بِهِمْ وَيَتَّبِعُونَهُ وَيُعْطَى كُلُّ إِنْسَانٍ مِنْهُمْ - مُنَافِقٍ أَوْ مُؤْمِنٍ - نُورًا ثُمَّ يَتَّبِعُونَهُ وَعَلَى جِسْرِ جَهَنَّمَ كَلاَلِيبُ وَحَسَكٌ تَأْخُذُ مَنْ شَاءَ اللَّهُ ثُمَّ يَطْفَأُ نُورُ الْمُنَافِقِينَ ثُمَّ يَنْجُو الْمُؤْمِنُونَ فَتَنْجُو أَوَّلُ زُمْرَةٍ وُجُوهُهُمْ كَالْقَمَرِ لَيْلَةَ الْبَدْرِ سَبْعُونَ أَلْفًا لاَ يُحَاسَبُونَ ثُمَّ الَّذِينَ يَلُونَهُمْ كَأَضْوَإِ نَجْمٍ فِي السَّمَاءِ ثُمَّ كَذَلِكَ ثُمَّ تَحِلُّ الشَّفَاعَةُ وَيَشْفَعُونَ حَتَّى يَخْرُجَ مِنَ النَّارِ مَنْ قَالَ لاَ إِلَهَ إِلاَّ اللَّهُ وَكَانَ فِي قَلْبِهِ مِنَ الْخَيْرِ مَا يَزِنُ شَعِيرَةً فَيُجْعَلُونَ بِفِنَاءِ الْجَنَّةِ وَيَجْعَلُ أَهْلُ الْجَنَّةِ يَرُشُّونَ عَلَيْهِمُ الْمَاءَ حَتَّى يَنْبُتُوا نَبَاتَ الشَّىْءِ فِي السَّيْلِ وَيَذْهَبُ حُرَاقُهُ ثُمَّ يَسْأَلُ حَتَّى تُجْعَلَ لَهُ الدُّنْيَا وَعَشَرَةُ أَمْثَالِهَا مَعَهَا  


               
อบู อัซซุบัยร์ ได้บอกกับฉันว่า  เขาได้ยิน ญาบิร บินอับดิลลาฮ์ ถูกถามเกี่ยวกับผู้ที่ถูกนำมาจากนรก เขาตอบว่า พวกเราจะถูกนำมาในวันกิยามะห์ อย่างนี้,อย่างนี้ จงดูเถิด ว่าเกิดอะไรขึ้นกับมนุษย์ บรรดาประชาชาติทั้งหลายจะถูกเรียกมาพร้อมกับสิ่งเคารพบูชาของพวกเขา โดยผู้ใดที่สักการบูชาต่อสิ่งใดเขาก็จะมาพร้อมกับสิ่งนั้น หลังจากนั้นองค์อภิบาลของพวกเราก็จะมาหาเรา แล้วกล่าวว่า พวกเจ้าคอยผู้ใดกันอยู่หรือ พวกเขาจะตอบว่า เราคอยผู้อภิบาลของพวกเรา พระองค์กล่าวว่า ข้าคือองค์อภิบาลของพวกเจ้า แต่พวกเขาจะปฏิเสธทุกครั้งไป (แล้วพระองค์ก็จะปรากฏให้พวกเขาประจักษ์) จนในที่สุดพวกเขาก็กล่าวว่า พวกเรารอคอยพระองค์อยู่ พระองค์จะทดสอบพวกเขาจนเป็นที่พอใจ แล้วพระองค์ก็จะพาพวกเขาไป  และขณะที่พวกเขาตามไปนั้น คนอื่นๆก็จะตามไปด้วย โดยที่พระองค์จะทรงให้แสงสว่างแก่ทุกคนไม่ว่าจะเป็นมุอ์มิน (ผู้ศรัทธาที่แท้จริง) หรือมุนาฟิก (ผู้ศรัทธาแบบกลับกลอก) หลังจากที่พวกเขาตามมาจนถึงสะพานที่ทอดผ่านนรกญะฮันนัม ซึ่งที่นั่นจะมีตะขอและเหล็กแหลมคมที่คอยเกี่ยวคน(ลงนรก) ตามที่พระองค์อัลลอฮืทรงประสงค์ ขณะนั้นแสงสว่างที่พวกศรัทธาแบบกลับกลอกได้ดับลง ซึ่งบรรดาผู้ศรัทธาได้ข้ามผ่านอย่างอย่างปลอดภัย โดยผู้ที่ได้รับความปลอดภัยเป็นกลุ่มแรก นั้นใบหน้าของพวกเขาจะเปล่งปลั่งดั่งจันทร์กระจ่างฟ้าในคืนวันเพ็ญ มีจำนวน 70,000 คนที่ไม่ถูกสอบสวน หลังจากนั้นกลุ่มที่ตามพวกเขามาจะมีใบหน้าเรืองแสงเหมือนประกายดาวในท้องฟ้า  เช่นนี้แหละ (กลุ่มอื่นๆที่ถูกเกี่ยวลงนรก) หลังจากนั้นการขอซะฟาอะห์ (การขอความช่วยเหลือ) ก็จะได้รับอนุมัติ ซึ่งพวกเขาจะได้รับการช่วยเหลือจนกระทั่งพ้นจากนรก นั่นคือผู้ที่กล่าวว่า
ลาอิลาฮ่าอิ้ลลัลลอฮ์ ที่ในหัวใจของพวกเขามีความดีงามแม้เพียงน้ำหนักเท่าเมล็ดข้าวฟ่าง โดยพวกเขาจะถูกนำมาที่ลานโล่งในสวรรค์ แล้วชาวสวรรค์ก็ช่วยกันราดน้ำบนพวกเขา จนกระทั่งพวกเขางอกเงยขึ้นมาดั่งเมล็ดพืชที่แทงหน่ออยู่ริมธารน้ำ แล้วรอยไหม้ที่ตัวเขาก็จะจางไป หลังจากนั้นเขาจะวิงวอนขอต่ออัลลอฮ์ จนกระทั่งเขาได้รับในสิ่งที่ร้องขอเท่ากับโลกดุนยา และมากกว่านั้นอีกสิบเท่าตัว 
 
      
  



ฮะดีษนี้มาจาก อ.ฟารีด เฟ็นดี้
http://www.fareedfendy.com

URL สำหรับเรื่องนี้คือ:
http://www.fareedfendy.com/modules.php?name=Sections2&op=viewarticle2&artid=507