มุสลิม/หมวดที่1/บทที่96/ฮะดีษเลขที่ 0425
حَدَّثَنَا سَعِيدُ بْنُ مَنْصُورٍ، حَدَّثَنَا هُشَيْمٌ، أَخْبَرَنَا حُصَيْنُ بْنُ عَبْدِ الرَّحْمَنِ، قَالَ كُنْتُ عِنْدَ سَعِيدِ بْنِ جُبَيْرٍ فَقَالَ أَيُّكُمْ رَأَى الْكَوْكَبَ الَّذِي انْقَضَّ الْبَارِحَةَ قُلْتُ أَنَا ‏.‏ ثُمَّ قُلْتُ أَمَا إِنِّي لَمْ أَكُنْ فِي صَلاَةٍ وَلَكِنِّي لُدِغْتُ ‏.‏ قَالَ فَمَاذَا صَنَعْتَ قُلْتُ اسْتَرْقَيْتُ ‏.‏ قَالَ فَمَا حَمَلَكَ عَلَى ذَلِكَ قُلْتُ حَدِيثٌ حَدَّثَنَاهُ الشَّعْبِيُّ ‏.‏ فَقَالَ وَمَا حَدَّثَكُمُ الشَّعْبِيُّ قُلْتُ حَدَّثَنَا عَنْ بُرَيْدَةَ بْنِ حُصَيْبٍ الأَسْلَمِيِّ أَنَّهُ قَالَ لاَ رُقْيَةَ إِلاَّ مِنْ عَيْنٍ أَوْ حُمَةٍ ‏.‏ فَقَالَ قَدْ أَحْسَنَ مَنِ انْتَهَى إِلَى مَا سَمِعَ وَلَكِنْ حَدَّثَنَا ابْنُ عَبَّاسٍ عَنِ النَّبِيِّ صلى الله عليه وسلم قَالَ ‏"‏ عُرِضَتْ عَلَىَّ الأُمَمُ فَرَأَيْتُ النَّبِيَّ وَمَعَهُ الرُّهَيْطُ وَالنَّبِيَّ وَمَعَهُ الرَّجُلُ وَالرَّجُلاَنِ وَالنَّبِيَّ لَيْسَ مَعَهُ أَحَدٌ إِذْ رُفِعَ لِي سَوَادٌ عَظِيمٌ فَظَنَنْتُ أَنَّهُمْ أُمَّتِي فَقِيلَ لِي هَذَا مُوسَى صلى الله عليه وسلم وَقَوْمُهُ وَلَكِنِ انْظُرْ إِلَى الأُفُقِ ‏.‏ فَنَظَرْتُ فَإِذَا سَوَادٌ عَظِيمٌ فَقِيلَ لِي انْظُرْ إِلَى الأُفُقِ الآخَرِ ‏.‏ فَإِذَا سَوَادٌ عَظِيمٌ فَقِيلَ لِي هَذِهِ أُمَّتُكَ وَمَعَهُمْ سَبْعُونَ أَلْفًا يَدْخُلُونَ الْجَنَّةَ بِغَيْرِ حِسَابٍ وَلاَ عَذَابٍ ‏"‏ ‏.‏ ثُمَّ نَهَضَ فَدَخَلَ مَنْزِلَهُ فَخَاضَ النَّاسُ فِي أُولَئِكَ الَّذِينَ يَدْخُلُونَ الْجَنَّةَ بِغَيْرِ حِسَابٍ وَلاَ عَذَابٍ فَقَالَ بَعْضُهُمْ فَلَعَلَّهُمُ الَّذِينَ صَحِبُوا رَسُولَ اللَّهِ صلى الله عليه وسلم ‏.‏ وَقَالَ بَعْضُهُمْ فَلَعَلَّهُمُ الَّذِينَ وُلِدُوا فِي الإِسْلاَمِ وَلَمْ يُشْرِكُوا بِاللَّهِ ‏.‏ وَذَكَرُوا أَشْيَاءَ فَخَرَجَ عَلَيْهِمْ رَسُولُ اللَّهِ صلى الله عليه وسلم فَقَالَ ‏"‏ مَا الَّذِي تَخُوضُونَ فِيهِ ‏"‏ ‏.‏ فَأَخْبَرُوهُ فَقَالَ ‏"‏ هُمُ الَّذِينَ لاَ يَرْقُونَ وَلاَ يَسْتَرْقُونَ وَلاَ يَتَطَيَّرُونَ وَعَلَى رَبِّهِمْ يَتَوَكَّلُونَ ‏"‏ ‏.‏ فَقَامَ عُكَّاشَةُ بْنُ مِحْصَنٍ فَقَالَ ادْعُ اللَّهَ أَنْ يَجْعَلَنِي مِنْهُمْ ‏.‏ فَقَالَ ‏"‏ أَنْتَ مِنْهُمْ ‏"‏ ثُمَّ قَامَ رَجُلٌ آخَرُ فَقَالَ ادْعُ اللَّهَ أَنْ يَجْعَلَنِي مِنْهُمْ ‏.‏ فَقَالَ ‏"‏ سَبَقَكَ بِهَا عُكَّاشَةُ ‏"‏  


               
สะอี๊ด อิบนุ มันซูร เล่าให้เราฟังว่า ฮุซัยม์ เล่าใหเราฟังว่า ฮุศอยน์ อิบนุ อับดิรเราะห์มาน บอกกับเราโดยกล่าวว่า ขณะที่ฉันอยู่กับ ซะอด์ บินญุบัยร์ นั้นเขาได้กล่าวว่า คนใดในหมู่พวกท่านเห็นดาวตกเมื่อคืนที่ผ่านมาบ้าง ฉันตอบว่า ฉันเห็น แล้วฉันก็กล่าวอีกว่า แต่ว่าเมื่อคืนฉันไม่ได้ละหมาด (ซุนนะห์ตะฮัจญุจ) เนื่องจากปวดแผล (ที่โดนแมลงป่องต่อย) เขาถามว่า แล้วท่านทำอย่างไร ฉันตอบว่า ฉันขอให้คนช่วยเป่าให้ เขากล่าวว่า อะไรที่ทำให้ท่านทำเช่นนั้น ฉันตอบว่า มีฮะดีษอยู่บมหนึ่งที่ อัชชะอ์บีย์ เล่าให้พวกเราฟัง เขาถามว่า อัชชะอ์บีย์ เล่าอะไรให้พวกท่านฟังหรือ ฉันตอบว่า เขาเล่าให้เราฟังโดยนำมาจาก บุรอยดะห์ อิบนุฮุศัยบ์ อัลอัสละมีย์ ซึ่งเขากล่าวว่า ไม่มีการเสกเป่านอกจากเป็นตาแดง หรือปวดบวมจากพิษแมลง เขากล่าวว่า ช่างยอดเยี่ยมจริงที่ได้ทำอย่างถูกต้องตามที่รับฟังมา
                แต่ว่าอิบนุอับบาส ได้เล่าให้เราฟังจากท่านนบี ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ซึ่งท่านกล่าวว่า ประชาติต่างๆ ถูกนำมาให้ฉันเห็น แล้วฉันก็เห็นนบีท่านหนึ่งมาพร้อมกับประชาชาติของเขาเป็นกลุ่ม, และนบีอีกท่านหนึ่งมาพร้อมกับชายคนหนึ่งหรือสองคน, และนบีอีกท่านหนึ่งมาเพียงคนเดียวไม่มีคนอื่นตามมาด้วย แล้วภาพของคนกลุ่มใหญ่ก็ถูกนำมาปรากฏให้ฉันเห็น ซึ่งฉันคาดว่าพวกเขาน่าจะเป็นประชาชาติของฉัน แต่ก็มีผู้กล่าวกับฉันว่า นั่นคือนบีมูซา ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม พร้อมกับกลุ่มชนของเขา แต่จงมองไปทางขอบฟ้าอีกด้านหนึ่งเถิด และเมื่อฉันมองไปก็พบคนกลุ่มใหญ่อีกกลุ่มหนึ่ง ทันใดนั้นก็มีเสียงกล่าวกับฉันว่า นี่แหละประชาติของเจ้า ในหมู่พวกเขานั้นมีจำนวนเจ็ดหมื่นคนจะได้เข้าสวรรค์โดยไม่ถูกสอบสวน และไม่โดนลงโทษ   เมื่อกล่าวจบท่านลุกขึ้นแล้วเข้าไปในบ้านของท่าน แล้วบรรดาผู้คนก็ได้วิพากษ์วิจารณ์กันเกี่ยวกับผู้ที่ได้เข้าสวรรค์โดยไม่ถูกสอบสวนและไม่โดนลงโทษ โดยบางคนกล่าวว่า พวกเขาน่าจะเป็นคนที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับท่านนบี บางคนก็กล่าวว่า น่าจะเป็นผู้ที่เป็นมุสลิมแต่กำเนิด โดยพวกเขาไม่นำสิ่งใดมาเป็นภาคีกับพระองค์ และพวกเขายังคงวิพากษ์วิจารณ์อีกหลายกรณี หลังจากนั้นท่านรอซูลุ้ลลอฮ์ ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ได้ออกมาหาพวกเขาแล้วกล่าวว่า พวกเจ้ากำลังวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องใดกัน พวกเขาตอบกับท่านในเรื่องที่ได้วิพากษ์วิจารณ์ แต่ท่านบอกกับพวกเขาว่า นั่นหมายถึงคนที่ไม่เสกเป่าผู้อื่น และไม่ขอให้ผู้อื่นเสกเป่าให้กับเขา, ผู้ที่ไม่เชื่อเรื่องโชคลาง และพวกเขามอบหมายต่อองค์อภิบาลของพวกเขา ทันใดนั้น อุกาซะห์ อิบนุ มิฮ์ศอน ได้ลุกขึ้นแล้วกล่าวว่า ได้โปรดขอต่ออัลลอฮ์ให้ฉันเป็นหนึ่งในพวกเขาด้วยเถิด ท่านกล่าว่า เจ้าก็เป็นหนึ่งในหมู่พวกเขา หลังจากนั้นก็มีชายอีกคนหนึ่งกล่าวว่า ได้โปรดขอต่ออัลลอฮ์ให้ฉันเป็นหนึ่งในหมู่พวกเขาด้วยเถิด ท่านกล่าวว่า อุกาซะห์ได้รับไปก่อนหน้าเจ้าแล้ว   

 




ฮะดีษนี้มาจาก อ.ฟารีด เฟ็นดี้
http://www.fareedfendy.com

URL สำหรับเรื่องนี้คือ:
http://www.fareedfendy.com/modules.php?name=Sections2&op=viewarticle2&artid=563