บุคคอรี/หมวดที่4/บทที่24/ฮะดีษเลขที่ 160
عَنْ حُمْرَانَ،، فَلَمَّا تَوَضَّأَ عُثْمَانُ قَالَ أَلاَ أُحَدِّثُكُمْ حَدِيثًا لَوْلاَ آيَةٌ مَا حَدَّثْتُكُمُوهُ، سَمِعْتُ النَّبِيَّ صلى الله عليه وسلم يَقُولُ ‏"‏ لاَ يَتَوَضَّأُ رَجُلٌ فَيُحْسِنُ وُضُوءَهُ، وَيُصَلِّي الصَّلاَةَ إِلاَّ غُفِرَ لَهُ مَا بَيْنَهُ وَبَيْنَ الصَّلاَةِ حَتَّى يُصَلِّيَهَا ‏"‏‏.‏ قَالَ عُرْوَةُ الآيَةُ ‏{‏إِنَّ الَّذِينَ يَكْتُمُونَ مَا أَنْزَلْنَا مِنَ الْبَيِّنَاتِ‏}‏‏  


               
ฮุมรอน (คนรับใช้ของอุสมาน) รายงานว่า เมื่ออุสมานอาบน้ำละหมาดเสร็จ ก็กล่าวว่า ฉันจะบอกฮะดีษบทหนึ่งให้พวกท่านทั้งหลายทราบ และหากไม่ใช่เพราะอัลกุรอานอายะห์หนึ่ง ฉันก็จะไม่เล่าฮะดีษบทนี้ให้พวกท่านทั้งหลายฟัง คือ ฉันเคยได้ยินท่านนบี ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
คนหนึ่งเขาจะไม่อาบน้ำละหมาด โดยทำน้ำละหมาดอย่างดีงาม และเขาก็ละหมาด (จากน้ำละหมาดนั้น) นอกจากเขาจะได้รับการอภัยโทษจากเวลาที่เขาอาบน้ำละหมาดและละหมาดจนถึงละหมาดในเวลาถัดไป
                 อุรวะห์ กล่าวว่า อายะห์ที่อุสมานกล่าวถึงคือ  แท้จริงบรรดาผู้ที่ปกปิดหลักฐานอันชัดเจนที่เราได้ประทานมา (ซูเราะห์อัลบะกอเราะห์ อายะห์ที่ 159)           




ฮะดีษนี้มาจาก อ.ฟารีด เฟ็นดี้
http://www.fareedfendy.com

URL สำหรับเรื่องนี้คือ:
http://www.fareedfendy.com/modules.php?name=Sections2&op=viewarticle2&artid=596