fareedfendy.com

สุลัยมาน บิน อิบรอฮีม อัลก็อนดูซีย์


สุไลมาน บิน เคาญะห์ (หรือค่อวาญะห์) อิบรอฮีม กุบุลาน อัลฮุซัยนีย์ อัลฮะนาฟีย์ อัลนักชะบันดีย์ อัลก็อนดูซีย์ (1220 – 1270 ฮิจเราะห์ศักราช = 1805 – 1853)
คำว่า อัลนักชะบันดีย์ คือชื่อของฏอรีเกาะห์ (สายหนึ่ง) ของกลุ่มซูฟีย์ ซึ่งเป็นการระบุว่า บุคคลผู้นี้เป็นผู้เลื่อมใสในซูฟีสายนักชะบันดีย์ และคำว่า อัลฮะนาฟีย์ หมายถึงเขาเลื่อมใสในแนวทางของมัสฮับฮะนาฟีย์
คำว่า “อัลฮะนาฟีย์” หมยถึงผู้ที่เลื่อมใสในมัซฮับฮะนาฟี แต่อบู ยูซุบ เพื่อนของอิหม่ามฮะนาฟี กล่าวถึงเขาว่า "ฉันจะไม่ละหมาดตามหลังพวกญะฮ์มียะห์ และพวกรอฟิเฏาะห์ หรือแม้กระทั่งพวกก็อดรียะห์” (หนังสืออธิบายรากฐานการศรัทธาของอะห์ลิสซุนนะห์ โดยลักละกาอีย์ 4/733)
โดยข้อเท็จจริงแล้วเขาคือ ชีอะห์ รอฟิเฏาะฮ์ ที่อำพรางตนให้ผู้อื่นเข้าใจผิดว่า เขาเป็นชาวซุนนะห์
“และอัลก็อนดูซีย์นั้นไม่ได้อยู่ในสถานะของ ฮะนาฟี (ซุนนี) และรอฟิเฏาะห็ (ชีอะห์) พร้อมกัน เนื่องจากบรรดารอฟิเฏาะห์ในทัศนะของฮานะฟีนั้นคือ กาเฟร” (หนังสือฟะตาวาของอัสซุบกีย์ 2/590)
“เขาเป็นชีอะห์รอฟิเฏาะห์ และรอฟิเดาะห์ในทัศนะของฮะนาฟีนั้นคือ กาเฟร” (หนังสือฟะตาวาของอัสซุบกีย์ 2/590)
ชีอะห์ รอฟิเฏาะฮ์ ผู้นี้แต่งหนังสือไว้หลายเล่ม ที่โด่งดังคือ "ยะนาบีอุ้ลมะวัดดะห์" รวบรวมฮะดีษอุปโลกน์ไว้มากมายเช่น
“ท่าน รอซูลุ้ลลอฮ์ ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า ฉันเป็นนายของบรรดานบี และอาลีเป็นนายของบรรดาวะซีย และบรรดาวะซีย์หลังจากฉันนั้นมีสิบสองคน คนแรกของพวกเขาคือ อาลี และคนสุดท้ายของพวกเขาคือ อัลกออิม อัลมะห์ดี” (ยะนาบีอุ้ลมะวัดดะห์ 3/104)
“ธรรม มาส จะถูกวางเรียงรายรอบ อะรัช เพื่อชีอะห์ของฉันและชีอะห์ของอะห์ลุ้ลบัยต์ของฉัน พวกเขาคือบรรดาผู้บริสุทธิ์ใจในการปกครองของพวกเรา และอัลลอฮ์ ผู้ทรงสูงส่งจะกล่าวว่า มานี่เถิด โอ้บ่าวของข้า เพื่อข้าจะได้แผ่ความใจบุญของข้าให้แก่พวกเจ้า เพราะพวกเจ้าโดนทำร้ายในดุนยามาแล้ว” (ยะนาบีอุ้ลมะวัดดะห์ 1/56)
เหล่านี้ล้วนแต่เป็นฮะดีษอุปโลกน์ทั้งสิ้น