ซูเราะห์อัลบะกอเราะห์ อายะห์ที่ 125


وَإذْ جَعَلْنَا البَيْتَ مَثَابَةً للنَّاسِ وَأمْناً وَاتَّخِذُوا مِنْ مَقَامِ إبْرَاهِيْمَ مَصَلَّى وَعَهِدْنَا إلَى إبْرَاهِيْمَ وَإسْمَاعِيْلَ أنْ طَهِّرَا بَيْتِي للطَائِفِيْنَ وَالعَاكِفِيْنَ وَالرُكَّعِ السُجُوْدِ


และจงรำลึกถึงขณะที่เราได้ทำให้บ้านหลังนี้เป็นที่กลับสำหรับมนุษย์ และเป็นสถานที่ปลอดภัย และพวกเจ้าจงเอาที่ยืนของอิบรอฮีมเป็นที่ละหมาด และเราได้ให้พันธสัญาแก่อิบรอฮีมและอิสมาอีล ว่า เจ้าทั้งสองจงทำความสะอาดบ้านของข้า เพื่อบรรดาผู้ฏอวาฟ, บรรดาผู้เอียะอ์ติกาฟ, บรรดาผู้รุกัวอ์และสุญูด



บรรดานักวิชาการมีความเห็นตรงกันในคำว่าบ้านตามที่ระบุในอายะห์นี้ หมายถึง บัยตุ้ลลอฮ์ ณ.มัสยิดฮะรอม ซึ่งเป็นบ้านหลังแรกที่ถูกก่อตั้งขึ้น ดังที่พระองค์อัลลอฮ์ทรงกล่าวว่า

إنَّ أوَّلَ بَيْتٍ وُضِعَ للنَّاسِ للَّذِي بِبَكَّةَ مُبَارَكاً وَهُدَى للْعَالَمِيْنَ فِيْهِ آيَاتٌ بَيِّنَاتٌ مَقَامُ إبْرَاهِيْمَ وَمَنْ دَخَلَهُ كَانَ آمِناً


“แท้จริงบ้านหลังแรกที่ถูกตั้งขึ้นสำหรับมนุษย์คือบ้านที่บักกะห์ (มักกะห์) เป็นที่มีความจำเริญ และเป็นทางนำแก่ชาวโลกทั้งผอง ในนั้นมีสัญญาณต่างๆที่ชัดเจนคือ ที่ยืนของอิบรอฮีม และผู้ใดได้เข้าไปที่นั้นเขาก็เป็นผู้ที่ปลอดภัย” ซูเราะห์ อาลาอิมรอน อายะห์ที่ 96-97

บรรดามุสลิมทั้งโลกต่างมุ่งหน้าไปยังสถานที่แห่งนี้อย่างไม่ขาดสาย โดยเฉพาะในการประกอบพิธีฮัจญ์และอุมเราะห์ ดังที่พระองค์อัลลอฮ์ทรงกล่าวว่า

وَأذِّن فِي النَّاسِ بِالْحَجِّ يَأْتُوْكَ رِجاَلاً وَعَلَى كُلِّ ضَامِرٍيَأْتِيْنَ مِنْ كُلِّ فَجٍّ عَمِيْقٍ


“และจงประกาศเรื่องการทำฮัจญ์แก่บรรดาผู้คน พวกเขาจะมาหาเจ้าโดยเดินเท้า และด้วยอูฐเปรียวทุกตัว โดยพวกเขาจะมาจากแดนไกลทุกทิศทาง” ซูเราะห์ อัจฮัจญ์ อายะห์ที่ 27

อิบนิ อับบาส ได้อธิบายคำว่า مثابة ด้วยคำว่า يثوبون มีความหมายว่า “ย้อนกลับไป” ส่วน อิกริมะห์, ก่อตาดะห์ และ อะฏออ์ อัลคอรอซานีย์ อธิบายว่า หมายที่เป็นแหล่งรวม

อิหม่ามบุคอรี ได้กล่าวไว้ในหมวดของการอธิบายอัลกุรอ่านบทที่ว่าด้วยเรื่อง (และพวกเจ้าจงเอาที่ยืนของอิบรอฮีมเป็นที่ละหมาด) และได้อธิบายคำว่า مثابة ด้วยคำว่า يثوبون ซึ่งมีความหมายตรงกับคำว่า يرجعون แปลว่า พวกเขาจะได้กลับ ส่วนข้อความที่ท่านได้รายงานมีดังนี้

حَدَّثَنَا مُسَدَّدٌ حَدَّثَنَا يَحْىَ بْنِ سَعِيْدٍ عَنْ حُمَيْدٍ عَنْ أَنَسِ بْنِ مَالِكٍ قَالَ قَالَ عُمَرُ بْنُ الخَطَّابِ وَافَقْتُ اللهَ فِي ثَلاَثٍ أوْ وَافَقَنِي رَبِّي فِي ثَلاَثٍ قُلْتُ : يَا رَسُوْلَ اللهِ لَوِ اتَّخَذْتَ مِنْ مَقَامِ إبْرَاهِيْمَ مُصَلَّى وَقُلْتُ : يَا رَسُوْلَ اللهِ يَدْخُلُ عَلَيْكَ البَرُّ وَالفَاجِرُ فَلَوْ أَمَرْتَ أُمَّهَاتِ الْمُؤْمِنِيْنَ بِالْحِجَابِ فَأنْزَلَ اللهُ آيَةَ الحِجَابِ قَالَ : وَبَلَغَنِي مُعَاتَبَهُ النَّبِيِّ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ بَعْضَ نِسَائِهِ فَدَخَلْتُ عَلَيْهِنَّ قُلْتُ : إنِ انْتَهَيْتُنَّ أوْ لَيُبَدِّلَنَّ اللهُ رَسُوْلَهُ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ خَيْراً مِنْكُنَّ حَتَّى أَتَيْتُ إحْدَى نسََائِهِ قَالَتْ : يَا عُمَرُ أَمَا فِي رَسُوْلِ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ مَا يَعِظُ نِسَاءَهُ حَتَّى تَعِظَهُنَّ أنْتَ ؟ فَأنْزَلَ اللهُ : عَسَى رَبُّهُ إنْ طَلَّقَكُنَّ أنْ يُبْدِلَهُ أزْوَاجاً خَيْراً مِنْكُنَّ مُسْلِمَاتٍ

“มุซัดดัด เล่าให้เราฟังว่า ยะห์ยา บิน สอี๊ด เล่าให้เราฟังจาก ฮุมัยด์ จาก อนัส บิน มาลิก รายงานว่า ท่านอุมัร อิบนุ้ลค๊อตต๊อบ กล่าวว่า ฉันมีความเข้าใจตรงตามที่อัลลอฮ์ได้ประทานมาสามเรื่อง หรือ องค์อภิบาลของฉันได้อนุมัติต่อฉันในสามเรื่องคือ ฉันกล่าวว่า โอ้ศาสนทูตของอัลลอฮ์ หากว่าท่านได้เอาที่ยืนของอิบรอฮีมเป็นสถานที่ละหมาด และฉันก็กล่าวอีกว่า โอ้ศาสนทูตของอัลลอฮ์ ทั้งคนดีและคนเลวได้เข้ามาหาท่าน แต่หากท่านใช้ให้บรรดามารดาแห่งศรัทธาชนได้คลุมฮิญาบ แล้วพระองค์อัลลอฮ์ก็ทรงประทานอายะห์เกี่ยวกับฮิญาบมา เขากล่าวว่า การตำหนิภรรยาบางคนของท่านนบีได้ล่วงรู้มาถึงฉัน, ฉันจึงได้เข้าไปหาพวกเธอแล้วกล่าวว่า พวกเธอจะต้องยุติความวุ่นวาย หรือไม่อัลลอฮ์ก็จะเปลี่ยนภรรยาใหม่ให้แก่ท่านรอซูลที่ดีกว่าพวกเธอ จนกระทั่งฉันได้กล่าวเรื่องนี้แก่ภรรยาคนหนึ่งของท่านรอซูล นางกล่าวว่า โอ้อุมัรเอ๋ย ท่านรอซูลุ้ลลอฮ์ มิได้ตักเตือนภรรยาของท่านหรือ จนกระทั่งท่านต้องมาตักเตือนเสียเอง แล้วพระองค์อัลลอฮ์ก็ทรงประทานอายะห์นี้มาว่า “หากเขาหย่าพวกนาง บางทีองค์อภิบาลของเขา ก็จะทรงเปลี่ยนให้แก่เขาซึ่งคู่ครองที่ดีกว่าพวกนาง ซึ่งเป็นหญิงที่นอบน้อม” ศอเฮียะห์บุคอรี ฮะดีษเลขที่ 4123

ยังมีคำรายงานจากท่านอุมัร อิบนุ้ลค๊อตต๊อบ ในบันทึกอื่นๆ อีกหลายบทที่มีเนื้อหาใกล้เคียงกัน ส่วนที่แตกต่างกันบ้างเช่น
อบูฮาติม อัรรอซีย์ กล่าวว่า มูฮัมหมัด บิน อับดิลลาฮ์ อัลอันศอรีย์ เล่าให้เราฟังว่า ฮุมัยด์ อัตฏอวีล เล่าให้เราฟังจาก อนัส บินมาลิก กล่าวว่า อุมัร อิบนุ้ลค๊อตต๊อบ กล่าวว่า : องค์อภิบาลของฉันได้อนุมัติต่อฉันในสามเรื่อง หรือ ฉันมีความเข้าใจตรงตามที่อัลลอฮ์ได้ประทานมาสามเรื่องคือ ฉันกล่าวว่า โอ้ศาสนทูตของอัลลอฮ์ หากท่านได้เอาที่ยืนของอิบรอฮีมเป็นสถานที่ละหมาด แล้วพระองค์อัลลอฮ์ก็ทรงประทานอายะห์นี้มาว่า (และพวกเจ้าจงเอาที่ยืนของอิบรอฮีมเป็นที่ละหมาด) และฉันกล่าวว่า โอ้ศาสนทูตของอัลลอฮ์ หากท่านได้ให้บรรดาสตรีได้คลุมฮิญาบ แล้วพระองค์อัลลอฮ์ก็ทรงประทานอายะห์เกี่ยวกับฮิญาบลงมา และประการที่สามคือ เมื่อ อับดุลลอฮ์ อิบนิ อุบัย อิบนิ ซะลูน ได้เสียชีวิต ท่านรอซูลจะละหมาดให้แก่เขา แต่ฉันกล่าวว่า โอ้ศาสนทูตของอัลลอฮ์ ท่านจะละหมาดให้ผู้ปฏิเสธศรัทธาที่ตีสองหน้าคนนี้หรือ ท่านกล่าวว่า ทำไมเล่าอุมัรเอ๋ย แล้วพระองค์อัลลอฮ์ก็ทรงประทานอายะห์นี้มาว่า “และเจ้าอย่าได้ละหมาดให้แก่คนใดในหมู่พวกเขาที่เสียชีวิต และอย่ายืนบนหลุมศพของพวกเขา” ข้อความส่วนหนึ่งจากซูเราะห์ อัตเตาบะห์ อายะห์ที 84

อิบนุ กะษีร กล่าวว่า ฮะดีษบทนี้มีสายรายงานที่ศอเฮียะห์เช่นเดียวกัน และไม่ค้านกับคำรายงานก่อนหน้านี้ ซึ่งทั้งหมดต่างก็ศอเฮียะห์ และหากจำนวนที่ระบุค้านกับตัวบทก็ให้ถือเอาตามตัวบทเป็นสำคัญ
บรรดานักอธิบายอัลกุรอานมีมุมมองที่ต่างกันในเรื่องขอบเขตของคำว่า مقام ซึ่งแปลว่า “ที่ยืน” ของยบีอิบรอฮีม ตามที่ระบุในอายะห์นี้
อิบนุ อบีฮาติม กล่าวว่า อุมัร บิน ชับบะฮ์ อัลนุมัยรีย์ เล่าให้เราฟังว่า อบูค่อลัฟ (หมายถึง อับดุลลอฮ์ บิน อีซา) เล่าให้เราฟังว่า ดาวู๊ด บิน อบีฮินด์ เล่าให้เราฟังจาก มุญาฮิด จาก อิบนิ อับบาส ในถ้อยคำที่ว่า (และพวกเจ้าจงเอาที่ยืนของอิบรอฮีมเป็นที่ละหมาด) เขากล่าวว่า ที่ยืนของอิบรอฮีมในอายะห์นี้หมายถึงพื้นที่ของมัสยิดฮะรอมทั้งหมด และถูกรายงานจาก มุญาฮิด กับ อะฏออ์ ในทำนองนี้เช่นเดียวกัน
แต่คำรายงานที่อ้างถึง อิบนิ อับบาส ข้างต้นนี้ไม่น่าเชื่อถือเนื่องจาก ผู้รายงานที่ชื่อ อับดุลลอฮ์ บิน อีซา หรือ อบูค่อลัฟ เป็นผู้ที่รายที่ ฏออีฟ

อีกคำรายงานหนึ่งจาก อิบนุ อบีฮาติม เช่นเดียวกันแต่เป็นคำรายงานที่ศอเฮียะห์มีดังนี้ อัลฮะซัน บิน มูฮัมหมัด บิน อัลศ็อบบาฮ์ เล่าให้เราฟังว่า อับดุลวาฮาบ บิน อะฏออ์ เล่าให้เราฟังจาก อิบนุ ญุรอยจญ์ จาก ญะอ์ฟัร บิน มูฮัมหมัด จากพ่อของเขาว่า เขาได้ยิน ญาบิร สนทนาเกี่ยวกับการทำฮัจญ์ครั้งอำลาของท่านนบี ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม โดยกล่าวว่า “เมื่อท่านนบี ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ได้ทำการฏอวาฟ แล้ว อุมัร ก็กล่าวแก่ท่านว่า นี่คือที่ยืนของอิบรอฮีมบรรพบุรุษเราใช่ไหม ? ท่านตอบว่า ใช่ เขากล่าวว่า เราจะไม่เอาที่ยืนของเขาเป็นที่ละหมาดหรือ ? แล้วพระองค์อัลลอฮ์ก็ทรงประทานข้อความนี้มาว่า (และพวกเจ้าจงเอาที่ยืนของอิบรอฮีมเป็นที่ละหมาด)

อิบนุ มัรดุวิฮ์ กล่าวว่า มูฮัมหมัด บิน อะห์หมัด บิน มูฮัมหมัด อัลกุรวัยนีย์ เล่าให้เราฟังว่า อาลี บิน อัลฮุซัยน์ บิน ญุนัยด์ เล่าให้เราฟังว่า ฮิชาม บิน คอลิด เล่าให้เราฟังว่า อัลวะลีด เล่าให้เราฟังจาก มาลิก บิน อนัส จาก ญะอ์ฟัร บิน มูฮัมหมัด จาก พ่อของเขา จาก ญาบิร กล่าวว่า ในวันพิชิตมักกะห์ ขณะที่ท่านรอซูลุ้ลลอฮ์ ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ยืนอยู่ที่มะกอมของอิบรอฮีม อุมัร ได้กล่าวแก่ท่านว่า : โอ้รอซูลของอัลลอฮ์ นี่คือที่ยืนของอิบรอฮีมตามที่พระองค์อัลลอฮ์ทรงกล่าวว่า (และพวกเจ้าจงเอาที่ยืนของอิบรอฮีมเป็นที่ละหมาด) ใช่ไหม ? ท่านตอบว่า ใช่

ฮะดีษบทนี้ อิหม่ามนะซาอีย์ ได้บันทึกไว้ในสุนันของท่าน จากสายรายงานของ อัลวะลีด บิน มุสลิมซึ่งเป็นสายรายงานที่ศอเฮียะห์ ขณะเดียวกัน อิหม่ามบุคอรี ได้บันทึกในศอเฮียะห์ของท่านว่า

حَدَّثَنَا عَمْرُو بْنُ دِيْنَارٍ قَالَ : سَمِعْتُ ابْنَ عُمَرَ يَقُوْلُ : قَدِمَ النَّبِيُّ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ فَطَافَ بِالْبَيْتِ سَبْعاً وَصَلَّى خَلْفَ الْمَقَامِ رَكْعَتَيْنِ


“อัมร์ บิน ดีนาร เล่าให้เราฟังโดยกล่าวว่า : ฉันเคยได้ยิน อิบนิ อุมัร กล่าวว่า : ท่านนบี ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ได้เดินทางมาแล้วทำการตอวาฟบัยต้ลลอฮ์ เจ็ดรอบ และละหมาดข้างหลังที่ยืนของอิบรอฮีมอีกสองรอกอะห์” ศอเฮียะห์ บุคอรี ฮะดีษเลขที่ 381

อิบนุ กะษีร กล่าวว่า ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ยืนยันว่า เป้าหมายของคำว่า “มะกอม” หรือที่ยืนนี้ก็คือแผ่นหินที่นบีอิบรอฮีม อลัยฮิสสลาม ยืนเพื่อสร้างกะอ์บะห์

ถ้อยคำที่ว่า (และเราได้ให้พันธสัญาแก่อิบรอฮีมและอิสมาอีล) ฮะซัน อัลบัศรีย์ กล่าวว่า พระองค์อัลลอฮ์ทรงใช้ทั้งสองทำความสะอาดบัยตุ้ลลอฮ์ให้ปราศจากสิ่งอันตราย,ความสกปรกและโสโครกใดๆ
อิบนุ ญุรอยจญ์ กล่าวว่า ฉันได้ถาม อะฏออ์ ว่า อะไรคือพันธสัญญาของอัลลอฮ์ ? เขาตอบว่า คือคำสั่งใช้ของพระองค์
อับดุรเราะห์มาน บิน เซด บิน อัสลัม กล่าวว่า คำว่า “เราได้ให้พันธสัญญา” หมายถึง “เราได้สั่งใช้เขา”

ถ้อยคำที่ว่า (เจ้าทั้งสองจงทำความสะอาดบ้านของข้า เพื่อบรรดาผู้ฏอวาฟ, บรรดาผู้เอียะอ์ติกาฟ, บรรดาผู้รุกัวอ์และสุญูด) สะอี๊ด บิน ญุบัยร์ รายงานว่า อิบนิ อับบาส ได้อธิบายในถ้อยคำที่ว่า (เจ้าทั้งสองจงทำความสะอาดบ้านของข้า) หมายถึง ให้ปราศจากเจว็ดทั้งปวง
มุญาฮิด และ สะอี๊ด บิน ญุบัยร์ กล่าวว่า (เจ้าทั้งสองจงทำความสะอาดบ้านของข้า) ให้ปราศจากเจว็ด, ความหยายคาย, คำพูดไร้สาระ และสิ่งโสโครกทั้งมวล
อิบนุ อบี ฮาติม กล่าวว่า ถูกรายงานจาก อุบัยด์ บิน อุมัยร์, อะบีอัลอาลียะห์, สะอี๊ด บิน ญุบัยร์, มุญาฮิด, อะฏออ์ และ ก่อตาดะห์ ในถ้อยคำที่ว่า (เจ้าทั้งสองจงทำความสะอาดบ้านของข้า) ด้วยคำว่า “ลาอิลาฮ่าอิ้ลลัลลอฮ์” ให้บริสุทธิ์โดยปราศจากการตั้งภาคีใดๆ
อับดุรเราะห์มาน บิน เซด ได้อธิบายในถ้อยคำที่ว่า (เจ้าทั้งสองจงทำความสะอาดบ้านของข้า) เขากล่าวว่า ทำความสะอาดให้ปราศจากเจว็ดทั้งหลายที่พวกเขาได้สักการะ ซึ่งบรรดาผู้ตั้งภาคีทั้งหลายได้ให้ความสำคัญแก่มัน
พระองค์อัลลอฮ์ ทรงกล่าวว่า

وَإذْ بَوَّأْنَا لإبْرَاهِيْمَ مَكاَنَ الْبَيْتِ أنْ لاَ تُشْرِكْ بِي شَيْئاً وَطَهِّرْ بَيْتِي للْطَائِفِيْنَ وَالقَائِمِيْنَ وَالرُّكَعِ السُجُوْدِ


“และจงรำลึกถึงขณะที่เราได้แนะนำแก่อิบรอฮีมซึ่งสถานที่ของบ้านนี้ว่า เจ้าอย่าได้ตั้งภาคีใดๆต่อข้า และจงทำความสะอาดบ้านของข้า สำหรับบรรดาผู้ที่ทำการฏอวาฟ, บรรดาผู้ละหมาด, ผู้รุกัวอ์และผู้สุญูด” ซูเราะห์ อับฮัจญ์ อายะห์ที่ 26

فِي بُيُوْتٍ أَذِنَ اللهُ أنْ تُرْفَعَ وَيُذْكَرَفِيْهَا اسْمُهُ يُسَبِّحُ لَهُ فِيْهَا بِالْغُدُوِّ وَالآصَالِ


“ในบรรดาบ้าน (มัสยิดทั้งหลาย) นั้น อัลลอฮ์อนุมัติในการเทิดเกียรติ และในการที่นามของพระองค์ถูกกล่าว การสดุดีต่อพระองค์ในมัสยิดต่างๆเป็นเนืองนิตย์ ทั้งยามเช้าและยามเย็น” ซูเราะห์ อันนูร อายะห์ที่ 36