ซูเราะห์อัลบะกอเราะห์ อายะห์ที่ 130


ومن يرغب عن ملة إبراهيم إلا من سفه نفسه ولقد اصطفيناه في الدنيا وإنه في الآخرة لمن الصالحين


และจะมีใครที่ไม่ปรารถนาแนวทางของอิบรอฮีม นอกจากผู้ที่ทำให้ตัวเองโง่เขลา และแน่นอนเราได้คัดเลือกเขาในโลกนี้ และในโลกหน้านั้นเขาก็จะอยู่ในหมู่คนดี



พระองค์อัลลอฮ์ทรงตอบโต้บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาในอุตริกรรมของพวกเขาโดยนำสิ่งอื่นมาเทียบเคียงต่อพระองค์อัลลอฮ์ในสักการบูชา ซึ่งสวนทางกับแนวทางของนบีอิบรอฮีม ซึ่งท่านนั้นยึดมั่นในการให้เอกภาพต่อพระองค์อัลลอฮ์อย่างจริงจัง ท่านไม่เคยเรียกร้องไปสู่การสักการะสิ่งอื่นนอกจากอัลลอฮ์ และก็มิเคยตั้งภาคีใดๆต่อพระองค์อัลลอฮ์แม้แต่เพียงเล็กน้อย จึงทำให้ท่านบริสุทธิ์จากการกราบไหว้สิ่งอื่น ด้วยเหตุดังกล่าวนี้ทำให้ท่านมีวิถีความเชื่อและการปฏิบัติที่แตกต่างจากกลุ่มชนของท่าน หรือแม้กระทั่งพ่อของท่านเอง พระองค์อัลลอฮ์ทรงเล่าถึงคำพูดของนบีอิบรอฮีมที่กล่าวแก่กลุ่มชนของท่านว่า

يَا قَوْمِ إنِّي بَرِيءٌ مِمَّا تُشْرِكُوْنَ إنِّي وَجَّهْتُ وَجْهِي للَّذِي فَطَرَ السَّمَاوَاتِ وَالأرْضَ حَنِيْفاً وَمَا أنَا مِنَ الْمُشْرِكِيْنَ


“โอ้กลุ่มชนของฉัน แท้จริงฉันบริสุทธิ์จากสิ่งที่พวกท่านได้นำมาตั้งภาคี แท้จริงฉันได้มุ่งหน้าของฉันสู่ผู้สร้างบรรดาชั้นฟ้าและแผ่นดิน ในสภาพของผู้ใฝ่หาสัจธรรม และฉันก็มิได้เป็นหนึ่งในบรรดาผู้ตั้งภาคี” ซูเราะห์อัลอันอาม อายะห์ที่ 78 – 79

وَإذْ قاَلَ إبْرَاهِيْمُ لأبِيْهِ وَقَوْمِهِ إنَّنِي بَرَاءٌ مِمَّا تَعْبُدُوْنَ إلاَّ الَّذِي فَطَرَنِي فَإنَّهُ سَيَهْدِيْنِ


“และจงรำลึกถึงขณะที่อิบรอฮีมกล่าวแก่พ่อของเขาและกลุ่มชนของเขาว่า แท้จริงฉันนี้บริสุทธิ์จากสิ่งที่พวกท่านสักการะ นอกจากผู้ทรงสร้างฉัน เพราะพระองค์จะทรงนำทางฉัน” ซูเราะห์ อัสซุครุฟ อายะห์ที่ 26 – 27

وَمَا كَانَ اسْتِغْفَارُ إبْرَاهِيْمَ لأَبِيْهِ إلاَّ عَنْ مَوْعِدَةٍ وَعَدَهَا إيَّاهُ فَلَمَّا تَبَيَّنَ لَهُ أنَّهُ عَدُوٌّ للهِ تَبَرَّأَ مِنْهُ إنَّ إبْرَاهِيْمَ لأوَّاهٌ حَلِيْمٌ


“และการขออภัยโทษของอิบรอฮีมให้แก่พ่อของท่านนั้นมิได้บังเกิดขึ้นนอกจากสัญญาที่ให้ไว้แก่พ่อของเขาเท่านั้น แต่เมื่อเป็นที่กระจ่างแก่อิบรอฮีมว่า พ่อของเขานั้นเป็นศัตรูต่ออัลลอฮ์ เขาก็ปลีกตัวออกจากพ่อของเขา แท้จริงอิบรอฮีมนั้น เป็นผู้สะอื้นด้วยความเสียใจ และเป็นผู้อดกลั้น” ซูเราะห์ อัตเตาบะห์ อายะห์ที่ 114

إنَّ إبْرَاهِيْمَ كاَنَ أُمَّةً قَانِتاً للهِ حَنِيْفاً وَلَمْ يَكُ مِنَ الْمُشْرِكِيْنَ شَاكِراً لأنْعُمِهِ اجْتَبَاهُ وَهَداَهُ إلَى صِرَاطٍ مُسْتَقِيْمٍ وَآتَيْنَاهُ فِي الدُنْيَا حَسَنَةً وَإنَّهُ فِي الآخِرَةِ لَمِنَ الصَّالِحِيْنَ

“แท้จริงอิบรอฮีมนั้นเป็นประชาชาติต้นแบบ เป็นผู้สวามิภักดิ์ต่ออัลลอฮ์ เป็นผู้ใฝ่หาสัจธรรม และเขามิเคยเป็นหนึ่งในบรรดาผู้ตั้งภาคี เป็นผู้ที่รู้คุณต่อความเมตตาของพระองค์ พระองค์ทรงเลือกเขาและทรงนำทางเขาสู่ทางที่เที่ยงตรง และเราได้นำความดีมาให้แก่เขาในโลกนี้ และในโลกหน้านั้นเขาก็จะอยู่ในหมู่คนดี” ซูเราะห์ อันนะฮล์ อายะห์ที่ 120 – 122

อิบนุกะษีร ได้นำเอาอายะห์อัลกุรอานข้างต้นเหล่านี้มาอธิบายข้อความที่ว่า (และจะมีใครที่ไม่ปรารถนาแนวทางของอิบรอฮีม) ซึ่งวิธีการเช่นนี้คือหลักเกณฑ์ของการอธิบายอัลกุรอานด้วยอัลกุรอาน เพื่อชี้ให้เห็นว่า ท่านนบีอิบรอฮีมนั้นบริสุทธิ์จากการตั้งภาคีใดๆ

อิบนุ กะษีร ได้อธิบายคำว่า مِلَّةٌ ในอายะห์นี้ว่า หมายถึง แนวทางและวิถีทาง (มันฮัจญ์) ซึ่งท่านนบีอิบรอฮีม ได้แสดงให้เห็นถึงจุดยืนของท่านในการดำรงตนท่ามกลางกลุ่มชนที่ตั้งภาคีรายล้อม แต่ท่านก็มิเคยโอนอ่อนไปกับสิ่งเหล่านั้นเลย และนี่คือแบบอย่างของการรักษาตัวเองให้ปลอดภัยทั้งดุนยาและอาคิเราะห์ ดังนั้น ผู้ที่ไม่ปรารถนาแนวทางและวิถีทางของนบีอิบรอฮีม จึงเป็นผู้ที่อธรรมต่อตัวเองด้วยความโง่เขลา นั่นคือการทิ้งสัจธรรมแล้วก้าวสู่ความหลงผิด

อบุ้ลอาลียะห์ และ ก่อตาดะห์ กล่าวว่า อายะห์นี้ถูกประทานลงมาเกี่ยวกับพวกยะฮูด โดยพวกเขาแสวงหาแนวทางใหม่ที่ไม่ได้มาจากอัลลอฮ์ ซึ่งแตกต่างจากแนวทางของนบีอิบรอฮีมอย่างสิ้นเชิง ดังที่พระองค์อัลลอฮ์ได้ทรงกล่าวว่า

مَا كَانَ إبْرَاهِيْمُ يَهُوْدِيًّا وَلاَ نَصْرَانِيًّا وَلكِن كَانَ حَنِيْفاً مُسْلِماً وَمَا كَانَ مِنَ الْمُشْرِكِيْنَ إنَّ أوْلَى النَّاسِ بِإبْرَاهِيْمَ لِلَّذِيْنَ اتَّبَعُوْهُ وَهَذاَ النَّبِيُّ وَالَّذِيْنَ آمَنُوا وَاللهُ وَلِيُّ الْمُؤْمِنِيْنَ

“อิบรอฮีมมิได้เป็นยิวและมิได้เป็นคริสต์ แต่ทว่าเขาเป็นผู้ที่แสวงหาสัจธรรม,เป็นผู้ยอมจำนน และเขาก็มิได้เป็นหนึ่งในบรรดาผู้ตั้งภาคี แท้จริงมนุษย์ที่ใกล้ชิดกับอิบรอฮีมมากที่สุดนั้นได้แก่บรรดาผู้ปฏิบัติตามเขา และปฏิบัติตามนบี (มูฮัมหมัด) นี้ และบรรดาผู้ศรัทธา และอัลลอฮ์นั้นคือผู้คุ้มครองบรรดาผู้ศรัทธา” ซูเราะห์ อาลาอิมรอน อายะห์ที่ 67 - 68