ซูเราะห์อัลบะกอเราะห์ อายะห์ที่ 22


الَّذِي جَعَلَ لَكُمُ الأرْضَ فِرَاشاً وَالسَّمَاءَ بِنَاءً وَأنْزَلَ مِنَ السَّمَاءِ مَاءً فَأخْرَجَ بِهِ مِنَ الثَّمَرَاتِ رِزْقاً لَّكُمْ فَلاَ تَجْعَلُوا للهِ أنْدَاداً وَأنْتُمْ تَعْلَمُوْنَ

ผู้ทำให้แผ่นดินเป็นที่นอนและทำให้ฟ้าเป็นหลังคาเพื่อพวกเจ้า และได้ทำให้น้ำฝนหลั่งลงจากฟ้า โดยให้พืชผลได้งอกเงยด้วยน้ำนั้น เป็นปัจจัยยังชีพแก่พวกเจ้า ดังนั้นพวกเจ้าอย่าได้เอาสิ่งใดเทียบเคียงสำหรับอัลลอฮ์ ทั้งๆที่พวกเจ้าก็รู้อยู่


ในอายะห์ก่อนหน้านี้ พระองค์อัลลอฮ์ได้ชี้ให้เห็นถึงสถานภาพของพระองค์ว่า ทรงเป็นพระเจ้า ผู้สร้างมนุษย์มา ขณะเดียวกันพระองค์ก็ทรงเป็นผู้อภิบาลของมนุษย์ด้วย โดยได้สร้างสรรพสิ่งและกำหนดให้มันเอื้อประโยชน์แก่มนุษย์เพื่อให้พวกเขาสามารถดำรงชีพอยู่ได้บนโลกใบนี้
พระองค์ทรงขึ้นต้นอายะห์นี้เพื่อขยายความการเป็นองค์อภิบาลของพระองค์ว่า ทรงเป็นผู้ทำให้แผ่นดินเป็นที่นอนและทำให้ฟ้าเป็นหลังคา เช่นเดียวกับที่พระองค์ทรงกล่าวว่า

وَجَعَلْنَا السَّمَاءَ سَقْفاً مَحْفُوْظاً

“และเราได้ทำให้ฟ้าเป็นหลังคา ถูกรักษาไว้” ซูเราะห์อัลอัมบิยาอ์ อายะห์ที่ 32


خَلَقَ السَّمَاوَاتِ بِغَيْرِ عَمْدٍ تَرَوْنَهَا وَألْقَى فِي الأرْضِ رَوَاسِيَ أنْ تَمِيْدَ بِكُمْ وَبَثَّ فِيْهَا مِنْ كُلِّ دَابَةٍ وَأنْزَلْنَا مِنَ السَّمَاءِ مَاءً فَأنْبَتْنَا فِيْهَا مِنْ كُلِّ زَوْجٍ كَرِيْمٍ

“พระองค์ทรงสร้างฟ้าทั้งหลายโดยปราศจากเสาที่พวกเจ้าจะมองเห็นมัน และทรงปักเทือกเขาไว้ในแผ่นดินเพื่อมิให้มันสั่นคลอนแก่พวกเจ้า และทรงให้สัตว์ทุกชนิดแพร่กรจายในแผ่นดิน และทรงทำให้น้ำฝนหลั่งลงมาจากฟ้า แล้วให้งอกเงยขึ้นเป็นคู่อย่างสวยงามในแผ่นดิน” ซูเราะห์ ลุกมาน อายะห์ที่ 10

ดังนั้นจงอย่าได้นำเอาสิ่งใดเทียบเคียงกับอัลลอฮ์ ในการเป็นพระเจ้า ผู้สร้างและผู้อภิบาลของพระองค์

“อิบนิ อับบาส ได้กล่าวว่า (ดังนั้นพวกเจ้าอย่าได้เอาสิ่งใดเทียบเคียงสำหรับอัลลอฮ์ ทั้งๆที่พวกเจ้าก็รู้อยู่) คือ พวกเจ้าอย่าได้ตั้งภาคีโดยเอาสิ่งอื่นที่ไม่ให้คุณและให้โทษมาเคียงคู่กับพระองค์ ทั้งๆที่พวกเจ้าก็รู้ดีอยู่ว่า ไม่มีผู้ใดเป็นผู้อภิบาลของพวกเจ้าและไม่มีผู้ใดประทานปัจจัยยังชีพแก่พวกเจ้านอกจากพระองค์ และพวกเจ้าก็รู้ดีอยู่แล้วว่า รอซูล ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม เป็นผู้เรียกร้องพวกเจ้าสู่การให้เอกภาพแก่พระองค์ มันคือสัจธรรมที่ไม่มีข้อสงสัยใดๆ” และก่อตาดะห์ ก็กล่าวไว้เช่นเดียวกันนี้
“อบู อัลอาลียะห์ กล่าวว่า (ดังนั้นพวกเจ้าอย่าได้เอาสิ่งใดเทียบเคียงสำหรับอัลลอฮ์) ตีเสมอ มีส่วนร่วม ซึ่งอัรรอเบียอ์ บิน อนัส,ก่อตาดะห์, อัสซุดดีย์, อบูมาลิก และ อิสมาอีล บิน อบีคอลิด ก็ได้กล่าวไว้ทำนองนี้เช่นเดียวกัน
มุญาฮิด กล่าวว่า (ดังนั้นพวกเจ้าอย่าได้เอาสิ่งใดเคียงคู่สำหรับอัลลอฮ์ ทั้งๆที่พวกเจ้าก็รู้อยู่) หมายถึง พวกเจ้ารู้ดีในคัมภีร์อัตเตารอตและอินญีลว่า แท้จริงพระองค์คือพระเจ้าองค์เดียว” ตัฟซีร อิบนิกะษีร เล่มที่ 1 หน้าที่ 87

การนำสิ่งใดมาเทียบเคียงกับพระองค์อัลลอฮ์ ไม่ว่าจะกรณีใดก็ตามถือเป็นการกระทำที่เป็นบาปใหญ่, เป็นการเนรคุณต่อพระเจ้า ซึ่งท่านอับดุลลอฮ์ อิบนิ มัสอู๊ด ได้ถามท่านนบีว่า

يَا رَسُوْلَ اللهِ أيُّ الذَنْبِ أَعْظَمُ ؟ قَالَ : أنَ تَجْعَلَ للهِ نِدًّا وَهُوَ خَلَقَكَ


“โอ้ศาสนทูตของอัลลอฮ์ บาปใดที่ใหญ่ที่สุด ท่านตอบว่า คือการนำสิ่งใดมาเทียบเคียงกับอัลลอฮ์ ทั้งที่พระองค์ทรงสร้างท่านมา” ศอเฮียะห์ บุคอรี ฮะดีษเลขที่ 4117

และฮะดีษที่รายงานโดยมุอาซ บิน ญะบัล ว่า ท่านนบี ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า

فَاِنَّ حَقَّ اللهِ عَلَى عِبَادِهِ أنْ يَعْبُدُوْهُ وَلاَ يُشْرِكُوا بِهِ شَيْئاً


“แท้จริงสิทธิของอัลลอฮ์ที่พึงได้รับจากบ่าวของพระองค์ คือการที่พวกเขาจะต้องสักการะต่อพระองค์ และไม่นำสิ่งใดมาเป็นภาคีกับพระองค์” ศอเฮียะห์บุคอรี ฮะดีษเลขที่ 2644