ซูเราะห์อัลบะกอเราะห์ อายะห์ที่ 4


وَالَّذِيْنَ يُؤْمِنُوْنَ بِمَا أُنْزِلَ إلَيْكَ وَمَا أُنْزِلَ مِنْ قَبْلِكَ وَبِالآخِرَةِ هُمْ يُوْقِنُوْنَ

และบรรดาผู้ที่ศรัทธาต่อสิ่งที่ถูกประทานลงมายังเจ้า และสิ่งที่ถูกประทานลงมาก่อนหน้าเจ้า และเรื่องราวของโลกหน้านั้นพวกเขาเชื่อมั่น


อีกลักษณะหนึ่งของบรรดาผู้ศรัทธาที่ได้แจ้งให้ทราบในอายะห์นี้คือ ผู้ศรัทธาต่ออัลกุรอานและศรัทธาต่อคัมภีร์ที่ถูกประทานลงมาก่อนหน้านี้คือ คัมภีร์อัตเตารอต ที่ทรงประทานให้แก่นบีมูซา และคัมภีร์อินญีลที่ทรงประทานให้แก่นบีอีซา ซึ่งบรรดาผู้ศรัทธาเชื่อว่า คัมภีร์ทั้งสองนี้มาจากพระองค์อัลลอฮ์เช่นเดียวกัน
เช่นเดียวกับการที่บรรดาผู้ศรัทธาในยุคสุดท้ายที่เชื่อว่า ท่านนบีมูซา, นบีอีซา และนบีท่านอื่นๆที่ถูกระบุไว้ในอัลกุรอานก็เป็นศาสนทูตของพระองค์อัลลอฮ์ด้วย ดังนั้นในหลักการศรัทธา หรือ รุก่นอีหม่าน จึงได้กล่าวถึง การศรัทธาต่อบรรดาคัมภีร์ และการศรัทธาต่อบรรดารอซูล โดยที่ไม่จำแนกการศรัทธาว่าเชื่อในบางท่านและปฏิเสธบางท่าน
พระองค์อัลลอฮ์ทรงกล่าวว่า

آمَنَ الرَّسُوْلُ بِمَا أُنْزِلَ إلَيْهِ مِن رَّبِّهِ وَالْمُؤْمِنُوْنَ كُلٌّ آمَنَ بِاللهِ وَمَلاَئِكَتِهِ وَكُتُبِهِ وَرُسُلِهِ لاَ نُفَرِّقُ بَيْنَ أحَدٍ مِّن رُّسُلِهِ


“รอซูลนั้นได้ศรัทธาต่อสิ่งที่ถูกประทานลงมายังท่านจากองค์อภิบาลของท่านและบรรดาผู้ศรัทธาก็ศรัทธาเช่นเดียวกัน ทุกคนศรัทธาต่ออัลลอฮ์, มาลาอิกะห์ของพระองค์, บรรดาคัมภีร์ของพระองค์ และบรรดารอซูลของพระองค์ โดย (พวกเขากล่าวว่า) เราจะไม่จำแนกการศรัทธาระหว่างคนหนึ่งคนใดในบรรดารอซูลของพระองค์” ซูเระห์อัลบะกอเราะห์ อายะห์ที่ 285

ส่วนผู้ที่เชื่อต่อรอซูลบางท่านและปฏิเสธบางท่าน เช่นกรณีของชาวยะฮูดที่ศรัทธาต่อนบีมูซา แต่ปฏิเสธนบีอีซาและนบีมูฮัมหมัด หรือชาวนะศอรอที่ศรัทธาต่อนบีอีซา แต่ปฏิเสธนบีมูซาและนบีมูฮัมหมัด อย่างนี้เป็นต้น ทั้งๆที่ในกลุ่มชนเหล่านี้ต่างศรัทธาต่อพระองค์อัลลอฮ์เหมือนกัน
พระองค์อัลลอฮ์ ทรงกล่าวว่า

إنَّ الَّذِيْنَ يَكْفُرُوْنَ بِاللهِ وَرُسُلِهِ وَيُرِيْدُوْنَ أنْ يُفَرِّقُوا بَيْنَ اللهِ وَرُسُلِهِ وَيَقُوْلُوْنَ نُؤْمِنُ بِبَعْضٍ وَنَكْفُرُ بِبَعْضٍ وَيُرِيْدُوْنَ أنْ يَتَّخِذُوا بَيْنَ ذَلِكَ سَبِيْلاً . أوْلَئِكَ هُمُ الكَافِرُوْنَ حَقًّا

“แท้จริงบรรดาผู้ปฏิเสธการศรัทธาต่ออัลลอฮ์และบรรดาศาสนทูตของพระองค์ พวกเขาต้องการจำแนกระหว่างและบรรดาศาสนทูตของพระองค์ และพวกเขากล่าวว่า เราได้ศรัทธาต่อบางคนและเราปฏิเสธการศรัทธาต่อบางคน และพวกเขาต้องการจะยึดเอาแนวทางอื่นจากเหตุดังกล่าว เหล่านี้แหละพวกเขาคือผู้ปฏิเสธการศรัทธาอย่างแท้จริง” ซูเราะห์อันนิซาอ์ อายะห์ที่ 150-151

พระองค์อัลลอฮ์ทรงยืนยันว่า กลุ่มชนเหล่านี้คือผู้ปฏิเสธศรัทธาอย่างแท้จริง ด้วยเหตุนี้บรรดาผู้ศรัทธาจึงไม่จำแนกการศรัทธาต่อบรรดารอซูลและบรรดาคัมภีร์ออกจากกัน และที่กล่าวนี้ หมายถึงในด้านการศรัทธาเท่านั้น แต่ในด้านข้อบัญญัตินั้น มุสลิมยุคสุดท้ายได้ยึดเอาข้อบัญญัติจากคัมภีร์อัลกุรอานและคำสอนของท่านนบีมูฮัมหมัด ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม เป็นธรรมนูญในการดำเนินชีวิต

อีกลุ่มหนึ่งที่เป็นผู้ศรัทธาในความหมายของอายะห์นี้คือ “อะห์ลุ้ลกิตาบ” หรือ ชาวคัมภีร์ ที่พระองค์อัลลอฮ์ได้ทรงประทานคัมภีร์ อัตเตารอต และ คัมภีร์ อินญีล ให้แก่พวกเขา และเมื่อพระองค์อัลลอฮ์ได้ทรงแต่งตั้งท่านนบีมูฮัมหมัด ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ให้เป็นศาสนทูต และได้ทรงประทานคัมภีร์อัลกุรอาน เพื่อให้ท่านนำไปประกาศแก่มวลชน ทำให้ชาวอะห์ลุ้ลกิตาบที่เคยศรัทธาต่อนบีและคัมภีร์ของพวกเขาก่อนหน้านี้ ได้หันมาศรัทธาต่อท่านนบีมูฮัมหมัด และศรัทธาต่อคัมภีร์อัลกุรอานด้วย
พระองค์อัลลอฮ์ ทรงกล่าวว่า

الَّذِيْنَ آتَيْنَاهُمُ الْكِتَابَ مِنْ قَبْلِهِ هُمْ بِهِ يُؤْمِنُوْنَ . وَإِذَا يُتْلَى عَلَيْهِمْ قَالُوا آمَنَّا بِهِ إنَّهُ الْحَقُّ مِن رَّبِّنَا إنَّا كُنَّا مِنْ قَبْلِهِ مُسْلِمِيْنَ . أوْلَئِكَ يُؤْتَوْنَ أجْرَهُمْ مَرَّتَيْنِ بِمَا صَبَرُوا وَيَدْرَءُوْنَ بِالْحَسَنَةِ السَّيِّئَةَ وَمِمَّا رَزَقْنَاهُمْ يُنْفِقُوْنَ

“บรรดาผู้ที่เราได้ประทานคัมภีร์ให้แก่พวกเขาก่อนหน้าอัลกุรอาน พวกเขาได้ศรัทธาต่ออัลกุรอานด้วย และเมื่อได้ถูกอ่านแก่พวกเขา พวกเขากล่าวว่า เราศรัทธาต่ออัลกุรอาน แท้จริงมันคือสัจธรรมจากองค์อภิบาลของพวกเรา แท้จริงเราเคยเป็นผู้น้อมรับมาก่อนหน้านี้ พวกเหล่านี้แหละจะได้รับรางวัลของพวกเขาสองครั้ง ด้วยสิ่งที่พวกเขาอดทน และพวกเขาป้องกันความชั่วด้วยความดี และส่วนหนึ่งที่เราได้ให้เป็นปัจจัยยังชีพแก่พวกเขาก็บริจาค” ซูเราะห์ อัลก่อศ็อศ อายะห์ที่ 52-54

ท่านนบี ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวถึงกลุ่มชนที่ได้รับรางวัลสองครั้ง หนึ่งในนั้นคือ

رَجُلٌ مِنْ أهْلِ الْكِتَابِ آمَنَ بِنَبِيِّهِ وَآمَنَ بِمُحَمَّدٍ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ

“ชนชาวคัมภีร์ ที่ได้ศรัทธาต่อนบีของเขา และศรัทธาต่อมูฮัมหมัด ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม” ศอเฮียะห์บุคอรี ฮะดีษเลขที่ 9


พระองค์อัลลอฮ์ ทรงกล่าวปิดท้ายอายะห์นี้ถึงลักษณะของผู้ศรัทธาอีกประการหนึ่งว่า “และเรื่องราวของโลกหน้านั้นพวกเขาเชื่อมั่น” โดยพระองค์ทรงใช้คำว่า “อาคิเราะห์” ซึ่งในที่นี้หมายถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในโลกหน้าทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง, สภาพของวันกิยามะห์, การสอบสวน, ตราชั่งความดีและความชั่ว, เรื่องนรกและสวรรค์ เป็นต้น