ซูเราะห์อัลบะกอเราะห์ อายะห์ที่ 44


أَتَأْمُرُوْنَ النَّاسَ بِالْبِرِّ وَتَنْسَوْنَ أنْفَسَكُمْ وَأنْتُمْ تَتْلُوْنَ الْكِتَابَ أَفَلاَ تَعْقِلُوْنَ

หรือว่าพวกเจ้าให้ใช้ผู้อื่นกระทำความดี และพวกเจ้าลืมตัวของพวกเจ้าเอง ทั้งๆที่พวกเจ้าก็อ่านคัมภีร์ พวกเจ้าไม่ใช้ปัญญาใคร่ครวญหรือ


พระองค์อัลลอฮ์ทรงตั้งคำถามเชิงตำหนิบรรดาบาทหลวงชาวคัมภีร์ ขณะเดียวกันก็เป็นการประณามพวกเขาที่ใช้ให้ผู้คนกระทำความดี คือแนะนำให้ผู้อื่นศรัทธาต่อท่านนบี มูฮัมหมัด ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม แต่พวกเขากลับลืมตัวของพวกเขาเองโดยที่ไม่ศรัทธา ทั้งๆที่พวกเขาก็อ่านเรื่องราวของท่านนบี มูฮัมหมัด ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ที่ระบุอยู่ในคัมภีร์อัตเตารอตและอินญีล

แต่นักวิชาการบางท่านได้อธิบายอายะห์นี้ว่า ไม่ได้ขีดวงจำกัดเฉพาะชาวยะฮูดเท่านั้น แต่รวมถึงบรรดาผู้กลับกลอกการศรัทธาด้วย ดังเช่น อิบนุ ญุรอยญ์ ได้กล่าวว่า (หรือว่าพวกเจ้าให้ใช้ผู้อื่นกระทำความดี) คือ ชาวคัมภีร์และบรรดามุนาฟิกีน ที่พวกเขาใช้ให้บรรดาผู้คนถือศีลอดและละหมาด แต่พวกเขากลับละทิ้งสิ่งที่ใช้คนอื่น ดังนั้นพระองค์อัลลอฮ์จึงประจานพวกเขาในเรื่องนี้

ส่วนท่านก่อตาดะห์ ได้อธิบายในคำกล่าวของอัลลอฮ์ที่ว่า (หรือว่าพวกเจ้าให้ใช้ผู้อื่นกระทำความดี และพวกเจ้าลืมตัวของพวกเจ้าเอง) คือ บรรดาวงศ์วานของอิสรออีล ได้ใช้ผู้คนให้ภักดีและยำเกรงต่ออัลลอฮ์ และการทำความดี แต่พวกเขากลับทำในสิ่งที่ตรงกันข้าม ดังนั้นพระองค์อัลลอฮ์จึงได้ประจานพวกเขา และอัลซุดดีย์ ก็กล่าวไว้ในทำนองนี้เช่นเดียวกัน

การที่พระองค์อัลลอฮ์ได้นำเอาพฤติกรรมและเรื่องราวของชาวคัมภีร์ คือ กลุ่มชนชาวยะฮูดและนะศอรอมาระบุไว้ในอัลกุรอานนั้น ส่วนหนึ่งเพื่อเป็นอุทาหรณ์แก่ประชาชาติอิสลามว่า อย่าได้เอาเยี่ยงอย่างพวกเขามาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต ซึ่งกรณีนี้ก็เช่นเดียวกัน นักอรรถาธิบายอัลกุรอานหลายท่านได้นำเอาฮะดีษในทำนองนี้มาประกอบการอธิบาย ตัวอย่างเช่น

عَنْ أَنَسِ بْنِ مَالِكٍ رَضِىَ اللهُ عَنْهُ قَالَ قَالَ رَسُوْلُ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ " مَرَرْتُ لَيْلَهَ أُسْرَى بِي عَلَى قَوْمٍ شِفَاهُهُمْ تُقْرَضُ بِمَقَارِيْضٍ مِنْ نَارٍ قَالَ : قُلْتُ مَنْ هَؤُلاءِ ؟ قَالُوا خُطَبَاءُ مِنْ أهْلِ الدُنْيَا مِمَّنْ كاَنُوا يَأْمُرُوْنَ النَّاسَ بِالْبِرِّ وَيَنْسَوْنَ أنْفُسَهُمْ وَهُمْ يَتْلُوْنَ الْكِتَابَ أفَلاَ يَعْقِلُوْنَ

อนัส บิน มาลิก ขออัลลอฮ์ทรงพอพระทัยต่อเขาด้วย กล่าวว่า ท่านรอซูลุ้ลลอฮ์ ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า “ในค่ำคืนอิสรออ์ ฉันได้ผ่านไปยังคนกลุ่มหนึ่ง พวกเขาถูกเฉือนริมฝีปากออกเป็นชิ้นๆ ด้วยกรรไกจากไฟนรก เขาเล่าต่อไปว่า ฉันได้ถามว่า คนเหล่านี้คือใคร พวกเขาตอบว่า คือบรรดานักเทศนาในดุนยา พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งที่ใช้ให้ผู้คนทำความดี แต่พวกเขาลืมตัวของพวกเขาเอง ทั้งๆที่พวกเขาก็อ่านคัมภีร์ (อัตเตารอต) หรือว่าพวกเขาไม่ใช้สติปัญญาใคร่ครวญ” มุสนัด อิหม่ามอะห์หมัด ฮะดีษเลขที่ 12391

ในอีกรายงานหนึ่งจาก อนัส บิน มาลิก บันทึกในมุสนัด อิหม่ามอะห์หมัด และ อิบนุ มัรดุวิฮ์ ด้วยคำรายงานดังนี้

قَالَ سَمِعْتُ رَسُوْلَ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ يَقُوْلُ : مَرَرْتُ لَيْلَةَ أُسْرَى بِي عَلَى أُنَاسٍ تُقْرَضُ شِفَاهُهُمْ وَألْسِنَتُهُمْ بِمَقَارِيْضٍ مِنْ نَارٍ قُلْتُ مَنْ هَؤُلاءِ يَا جِبْرِيْلُ ؟ قَالَ هَؤُلاءِ خُطَبَاءُ أُمَّتِكَ الَّذِيْنَ يَأْمُرُوْنَ بِالْبِرِّ وَيَنْسَوْنَ أنْفُسَهُمْ

“ฉันเคยได้ยินท่านรอซูลุ้ลลลอฮ์ ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า : ในคืนอิสรออ์ ฉันได้ผ่านไปยังคนกลุ่มหนึ่งในคืนที่ถูกพาเดินทางยามค่ำคืน ซึ่งริมฝีปากและลิ้นของพวกเขาถูกเฉือนออกเป็นชิ้นๆ ด้วยกรรไกจากไฟนรก ฉันจึงถามว่า คนเหล่านี้คือใครหรือท่านญิบรีล เขากล่าวว่า พวกเขาคือนักเทศนาในหมู่ประชาชาติของท่าน เป็นผู้ที่ใช้ให้ผู้อื่นทำความดีแต่พวกเขาลืมตัวของพวกเขาเอง” สำนวนคำรายงานจาก อิบนุ มัรดุวิฮ์

ฮะดีษทั้งสองบทข้างต้นนี้อยู่ในสถานะฏออีฟ เนื่องจากหนึ่งในผู้รายงานที่ชื่อ อาลี บิน เซด หรือเรียกกันว่า “อิบนุ ญุดอาน” เป็นบุคคลที่มีปัญหาในการรายงาน

อย่างไรก็ตามในเรื่องนี้ยังมีคำรายงานจากกลุ่มผู้รายงานอื่นที่เชื่อถือได้ เช่นที่ อิบนุ ฮับบาน ได้ระบุไว้ในศอเฮียะห์ของท่าน รวมถึง อิบนุ อบีฮาติม และ อิบนุ มัรดุวิฮ์ ซึ่งมีเนื้อหาดังนี้

عَنْ أَنَسِ بْنِ مَالِكٍ قَالَ لَمَّا عُرِجَ بِرَسُوْلِ اللهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ مَرَّ بِقَوْمٍ تُقْرَضُ شِفَاهُهُمْ فَقَالَ : يَا جِبْرِيْلُ مَنْ هَؤُلاءِ ؟ قَالَ : هَؤُلاءِ الْخُطَبَاءُ مِنْ أُمَّتِكَ يَأْمُرُوْنَ النَّاسَ بِالْبِرِّ وَيَنْسَوْنَ أنْفُسَهُمْ أَفَلاَ يَعْقِلُوْنَ

“อนัส บิน มาลิก รายงานว่า ในค่ำคืนที่ท่านรอซูลุ้ลลอฮ์ ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ถูกพาขึ้นสู่ฟากฟ้า ท่านได้ผ่านไปยังคนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งริมฝีปากของพวกเขาถูกเฉือนออกเป็นชิ้นๆ ท่านได้ถามว่า โอ้ญิบรีล พวกเหล่านี้คือใครกันหรือ ? เขาตอบว่า : พวกเขาคือนักเทศนาจากประชาชาติของท่าน พวกเขาใช้ผู้อื่นให้ทำความดี แต่พวกเขาลืมตัวของพวกเขาเอง พวกเขาไม่ใช้ปัญญาใคร่ครวญหรือ”

และในบันทึกของอิหม่ามบุคอรี มีรายงานที่มีเนื้อหาใกล้เคียงกันนี้คือ

يُجَاءُ بِالرَّجُلِ يَوْمَ الْقِيَامَةِ فَيُلْقَى فِي النَّارِفَتَنْدَلِقُ أقْتَابَهُ فِي النَّارِ فَيَدُوْرُ كَمَا يَدُوْرُ الْحِمَارُ بِرَحَاهُ فَيَجْتَمِعُ أهْلُ النَّارِ عَلَيْهِ فَيَقُوْلُوْنَ يَافُلاَنُ مَا شَأْنُكَ أَلَيْسَ كُنْتَ تَأْمُرُنَا بِالْمَعْرُوْفِ وَتَنْهَانَا عَنِ الْمُنْكَرِ قَالَ : كُنْتُ آمُرُكُمْ بِالْمَعْرُوْفِ وَلاَ آتِيهِ وَأنْهَاكُمْ عَنِ الْمُنْكَرِ وَآتِيهِ

“ชายผู้หนึ่งจะถูกลากมาในวันกิยามะห์แล้วถูกโยนลงนรก โดยเขาจะสำรอกลำไส้ของเขาออกมาในนรก แล้วเดินวนรอบมันดังลาเดินวนรอบรหัสวิดน้ำ ชาวนรกจะมารวมตัวกันที่เขาแล้วกล่าวว่า โอ้ท่าน เกิดเรื่องอันใดแก่ท่านหรือ ท่านมิใช่หรือที่ใช้ให้พวกเราทำความดีและห้ามปรามพวกเรามิให้ทำชั่ว เขากล่าวว่า ฉันเคยใช้พวกท่านให้ทำความดีแต่ฉันไม่ได้ทำ และฉันห้ามพวกท่านไม่ให้ทำชั่วแต่ฉันกลับทำมันเอง” ศอเฮียะห์ บุคอรี ฮะดีษเลขที่ 3027

อย่างไรก็ตาม เป้าหมายหลักของอายะห์นี้คือ การตำหนิและประจานวงศ์วานของอิสรออีล หมายถึงกลุ่มชนชาวยะฮูดและนอศอรอ โดยเฉพาะบาทหลวงในหมู่พวกเขาที่แนะนำให้ผู้อื่นศรัทธาต่อท่านนบี มูฮัมหมัด ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม แต่พวกเขากลับไม่ศรัทธา ทั้งๆที่พวกเขาได้อ่านเรื่องราวของท่านนบี มูฮัมหมัด ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ซึ่งถูกระบุไว้ในคัมภีร์อัตเตารอตและอินญีล