ซูเราะห์อัลบะกอเราะห์ อายะห์ที่ 47


يَا بَنِي إسْرَائِيْلَ اذْكُرُوا نِعْمَتِيَ الَّتِي أنْعَمْتُ عَلَيْكُمْ وَأنِّي فَضَلْتُكُمْ عَلَى الْعَالَمِيْنَ


โอ้วงศ์วานของอิสรออีลเอ๋ย พวกเจ้าจงรำลึกถึงความเมตตาของข้า ซึ่งข้าได้เมตตาต่อพวกเจ้า และแท้จริงข้าได้ทำให้พวกเจ้าเลอเลิศกว่าประชาชาติทั้งหลาย


พระองค์อัลลอฮ์ทรงเรียกวงศ์วานของอิสรออีล ซึ่งหมายถึงวงศ์วานของนบียะอ์กู๊บ อลัยฮิสสลาม ได้แก่ชาวคัมภีร์ที่ประกอบด้วย กลุ่มชนชาวยะฮูดและนะศอรอ (ได้อธิบายประเด็นนี้ไว้แล้วในอายะห์ที่ 40)

ในอายะห์นี้มุ่งเน้นถึงวงศ์วานของอีสรออีลที่เป็นกลุ่มชนชาวยะฮูด ซึ่งพระองค์อัลลอฮ์ทรงใช้พวกเขาให้รำลึกถึงความเมตตาที่พระองค์เคยมอบให้แก่บรรพบุรุษของพวกเขา ด้วยการยกย่องพวกเขาเหนือประชาชาติอื่นในยุคนั้น ด้วยการประทานคัมภีร์อัตเตารอตและทรงแต่งตั้งศาสนทูตมูซาในหมู่พวกเขา ในขณะที่ประชาชาติอื่นในยุคนั้นไม่ได้รับความเมตตาเช่นนี้

คำว่า (และแท้จริงข้าได้ทำให้พวกเจ้าเลอเลิศกว่าประชาชาติทั้งหลาย) หมายถึงให้พวกเขาได้มีความเลอเลิศเหนือประชาชาติอื่นในยุคนั้น ดังที่พระองค์อัลลอฮ์ ได้ทรงกล่าวว่า

وَلَقَدِ اخْتَرْنَاهُمْ عَلَى عِلْمٍ عَلَى الْعَالَمِيْنَ

“และแน่นอน เราได้เลือกพวกเขาด้วยความรอบรู้ ให้เหนือประชาชาติอื่นในยุคนั้น” ซูเราะห์ อัดดุคอน อายะห์ที่ 32


และพระองค์อัลลอฮ์ทรงกล่าวถึงถ้อยคำของนบีมูซาว่า

وَإذْ قَالَ مُوْسَى لِقَوْمِهِ يَا قَوْمِ اذْكُرُوا نِعْمَةَ اللهِ عَلَيْكُمْ إذْ جَعَلَ فِيْكُمْ أنْبِيَاءَ وَجَعَلَكُمْ مُلُوْكاً وَآتَاكُمْ مَالَمْ يُؤْتِ أجَداً مِنَ الْعَالَمِيْنَ


“และจงทบทวน ขณะที่มูซาได้กล่าวแก่กลุ่มชนของเขาว่า โอ้กลุ่มชนของฉัน พวกเจ้าจงรำลึกถึงความเมตตาของอัลลอฮ์ที่มีต่อพวกเจ้า โดยพระองค์ได้ให้มีบรรดานบีในหมู่พวกเจ้า และได้ทรงให้พวกเจ้าเป็นกษัตริย์ และทรงประทานให้แก่พวกเจ้าด้วยสิ่งที่ไม่เคยให้แก่คนใดในประชาชาติอื่นมาก่อน” ซูเราะห์ อัลมาอิดะห์ อายะห์ที่ 20

แต่หากจะกล่าวถึงประชาชาติทั้งหมดทุกยุคก็ต้องยืนยันว่า ประชาชาติของท่านนบี มูฮัมหมัด ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ประเสริฐกว่าประชาชาติยุคอื่นๆ ดังที่พระองค์อัลลอฮ์ได้ทรงกล่าวว่า

كُنْتُمْ خَيْرَ أُمَّةٍ أُخْرِجَتْ لِلنَّاسِ تَأْمُرُوْنَ بِالْمَعْرُوْفِ وَتَنْهَوْنَ عَنِ الْمُنْكَرِ وَتُؤْمِنُوْنَ بِاللهِ


“พวกเจ้าเป็นประชาชาติที่ดีซึ่งถูกอุบัติขึ้นสำหรับมนุษยชาติ พวกเจ้ากำชับใช้กันในเรื่องที่ดีงาม และพวกเจ้าห้ามปรามกันในเรื่องผิด และพวกเจ้าศรัทธาต่ออัลลอฮ์” ซูเราะห์ อาลาอิมรอน อายะห์ที่ 110

ชาวคัมภีร์นั้นเป็นประชาชาติที่เลอเลิศกว่าประชาติอื่นในอดีตดังที่พระองค์อัลลอฮ์ทรงกล่าวไว้ แต่พอมาถึงปัจจุบัน ความเลอเลิศของพวกเขาได้สูญหายไปจากการที่พวกเขาไม่รักษามั่นและยืนหยัดในศาสนาที่ถูกต้อง แต่กลับถือศาสนาตามอารมณ์ของตนเอง จนกระทั่งพระองค์อัลลอฮ์ทรงเอาพฤติกรรมของพวกเขามาประจานไว้ในอัลกุรอานมากมาย ดังเช่นพระองค์ทรงกล่าวว่า

وَلَوْ آَمَنَ أهْلُ الْكِتَابِ لَكَانَ خَيْراً لَّهُمْ مِنْهُمُ الْمُؤْمِنُوْنَ وَأكْثَرُهُمُ الْفَاسِقُوْنَ


“และหากชาวคัมภีร์ได้ศรัทธาก็จะเป็นความดีแก่พวกเขา ส่วนหนึ่งจากพวกเขานั้นเป็นผู้ที่ศรัทธา แต่ส่วนมากของพวกเขาเป็นคนชั่ว” ซูเราะห์ อาลาอิมรอน อายะห์ที่ 110