ซูเราะห์อัลบะกอเราะห์ อายะห์ที่ 49


وَإذْ نَجَّيْنَاكُمْ مِنْ آلِ فِرْعَوْنَ يَسُوْمُوْنَكُمْ سُوْءَ الْعَذَابِ يَذْبَحُوْنَ أبْنَاءَكُمْ وَيَسْتَحْيُوْنَ نِسَاءَكُمْ وَفِي ذَلِكُمْ بَلاَءٌ مِنْ رَبِّكُمْ عَظِيْمٌ


และจงทบทวนขณะที่เราได้ช่วยพวกเจ้าให้รอดพ้นจากพรรคพวกของฟิรเอาน์ ซึ่งพวกเขาได้ขู่บังคับพวกเจ้าด้วยการทรมานที่เลวร้าย พวกเขาเชือดบรรดาลูกชายของพวกเจ้า และไว้ชีวิตลูกสาวของพวกเจ้า และในเรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้นแก่พวกเจ้านี้คือความเมตตาอย่างใหญ่หลวงจากองค์อภิบาลของพวกเจ้า


พระองค์อัลลอฮ์ยังทรงกล่าวถึงวงศ์วานของอิสรออีล โดยเฉพาะกลุ่มชนชาวยะฮูด ซึ่งพระองค์ทรงใช้พวกเขาให้ทบทวนเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นแก่บรรพบุรุษของพวกเขาในอดีต ที่ต้องเผชิญกับการคุกคามจากฟิรเอาน์และพลพรรคของเขา ด้วยการบังคับใช้แรงงานอย่างทารุณ, ล่าสังหารทารกเพศชายที่เกิดในขณะนั้นทั้งหมด แต่พระองค์ก็ทรงให้ความช่วยเหลือพวกเขา

คำว่า (ช่วยพวกเจ้าให้รอดพ้น) หมายถึงช่วยให้รอดปลอดภัยจากเหตุการณ์ที่เลวร้ายนั้น และยังช่วยพวกเขาให้ปลอดภัยจากการไล่ล่าของฟิรเอาน์และพลพรรคของเขาจนกระทั่งประชิดทะเลแดง ซึ่งจะได้นำมาอธิบายในอายะห์ถัดไป อินชาอัลลอฮ์

จึงนับเป็นความเมตตาอย่างใหญ่หลวงที่พระองค์อัลลอฮ์ทรงมีต่อวงศ์วานของอิสรออีล โดยเฉพาะกลุ่มชนชาวยะฮูด ดังที่พระองค์ได้ทรงเล่าให้ฟังถึงคำกล่าวเตือนของนบีมูซาแก่กลุ่มชนชาวยะฮูดว่า

وَإذْ قَالَ مُوْسَى لِقَوْمِهِ اذْكُرُوا نِعْمَةَ اللهِ عَلَيْكُمْ إذْ أنْجَاكُمْ مِنْ آلِ فِرْعَوْنَ يَسُوْمُوْنَكُمْ سُوْءَ الْعَذَابِ وَيُذَبِّحُوْنَ أبْنَاءَكُمْ وَيَسْتَحْيُوْنَ نِسَاءَكُمْ وَفِي ذَلِكُمْ بَلاَءٌ مِنْ رَّبِّكُمْ عَظِيْمٌ

“และจงทบทวนขณะที่มูซาได้กล่าวแก่กลุ่มชนของเขาว่า พวกเจ้าจงรำลึกถึงความเมตตาของอัลลอฮ์ที่มีต่อพวกเจ้า เมื่อครั้งที่พระองค์ทำให้พวกเจ้ารอดพ้นจากพลพรรคของฟิรเอาน์ ซึ่งพวกเขาขู่บังคับพวกเจ้าด้วยการทรมานที่เลวร้าย และพวกเขาได้เชือดบรรดาลูกชายของพวกเจ้า และไว้ชีวิตลูกสาวของพวกเจ้า และในเรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้นแก่พวกเจ้านี้คือความเมตตาอย่างใหญ่หลวงจากองค์อภิบาลของพวกเจ้า” ซูเราะห์ อิบรอฮีม อายะห์ที่ 6

และข้อความที่ว่า (และในเรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้นแก่พวกเจ้านี้คือความเมตตาอย่างใหญ่หลวงจากองค์อภิบาลของพวกเจ้า) หมายถึง ขณะที่พวกเจ้าเผชิญกับความทุกข์ทรมาน และพระองค์อัลลอฮ์ได้ทรงช่วยพวกเจ้าให้รอดพ้นจากวิกฤติเช่นนั้นถือเป็นความเมตตาอย่างใหญ่หลวงจากองค์อภิบาลของพวกเจ้า

คำว่า “บะลาอ์” โดยทั่วไปแล้วจะให้ความหมายว่า “การทดสอบ” ไม่ว่าจะเป็นด้านดีหรือในด้านที่เลวร้ายก็ตาม แต่ในอายะห์นี้มีความหมายว่า “ความเมตตา”
อิบนุ ญะรีร กล่าวว่า “หมายถึง เนียะอ์มะห์ คือความเมตตาอันยิ่งใหญ่ที่มีต่อพวกเจ้าในเรื่องดังกล่าว” ตัฟซีร อัตฏอบะรีย์ เล่มที่ 1 หน้าที่ 274

“อาลี อิบนิ อบี ฏอลฮะห์ กล่าวว่า จากอิบนิ อับบาส ในถ้อยคำที่ว่า ( بَلاَءٌ مِنْ رَبِّكُمْ عَظِيْمٌ ) เขากล่าวว่า หมายถึง ความเมตตา
มุญาฮิด กล่าวว่า ( بَلاَءٌ مِنْ رَبِّكُمْ عَظِيْمٌ ) หมายถึง ความเมตตาอันยิ่งใหญ่จากองค์อภิบาลของพวกเจ้า ซึ่ง อบูลอาลียะห์, อบูมาลิก,อัสซุดดีย์ และคนอื่นก็กล่าวไว้อย่างนี้เช่นเดียวกัน” ตัฟซีร อิบนิ กะษีร เล่มที่ 1 หน้าที่ 128